ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า
สุวรรณภูมิหรือชางงี ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ?
น่าตื่นเต้นที่เมื่อเร็วๆ นี้ ท่านนายกฯ เศรษฐา ประกาศว่าจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (หรือฮับ) ของภูมิภาค นับว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง สนามบินของไทยที่ดีที่สุดและมีศักยภาพที่จะเป็นฮับได้ก็คือสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็มีคู่แข่งที่น่ากลัว นั่นก็คือสนามบินชางงีของสิงคโปร์ สุวรรณภูมิของไทยจะสู้ชางงีของสิงคโปร์ได้หรือไม่ ?
1. ทำความรู้จัก “ศูนย์กลางการบินหรือฮับ”
ฮับ (Hub) ในวงการการบินมีคำเต็มว่า Hub and Spoke คำว่า Hub คือศูนย์กลางของเส้นทางการบิน ส่วน Spoke คือเส้นทางการบินจากศูนย์กลางไปสู่สนามบินอื่นที่อยู่รายล้อม คำอธิบายนี้เปรียบเทียบได้กับวงล้อจักรยานที่มีดุมล้อเป็นศูนย์กลาง (Hub) และซี่ล้อเป็นเส้นทางบินออกจากศูนย์กลาง (Spoke)
สายการบินโดยส่วนมากจะมีฮับอย่างน้อย 1 ฮับ เพื่อต้องการลดค่าใช้จ่ายจากการต้องบินตรงระหว่าง 2 สนามบินที่มีผู้โดยสารน้อย การบินผ่านฮับจะทำให้รับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น เมื่อมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อหัวย่อมลดลง โอกาสที่จะทำกำไรย่อมมีมากขึ้น
ในส่วนของผู้โดยสาร การต้องบินผ่านฮับจะทำให้เสียเวลาในการเปลี่ยนถ่ายเครื่องบิน หรือต้องรอผู้โดยสารใหม่จากฮับขึ้นเครื่อง แต่ข้อดีในการบินผ่านฮับก็มี นั่นคือผู้โดยสารมีโอกาสเลือกใช้สายการบินที่ตนชอบได้ที่ฮับ แทนที่จะต้องทนบินไปกับสายการบินที่ตนไม่ชอบ ที่ฮับจะมีหลากหลายสายการบินให้เลือก
2. สุวรรณภูมิกับชางงี สนามบินใดรั้งอันดับโลกดีกว่า ?
Skytrax ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจการบินและจัดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดในโลกเป็นประจำทุกปี ได้จัดให้สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในอันดับที่ 68 ในปี 2566 ในขณะที่สนามบินชางงีได้อันดับที่ 1
สนามบินชางงีมีประวัติที่น่าเกรงขาม เพราะได้ครองแชมป์สนามบินที่ดีที่สุดในโลกมาแล้วถึง 12 ครั้ง 12 ปี ประกอบด้วยปี 2543, 2546, 2553, 2556-2563, และ 2566 โดยได้ครองแชมป์ยาวต่อเนื่องถึง 8 ปี ในช่วงปี 2556-2563
สนามบินสุวรรณภูมิจากอันดับ 10 ดิ่งลงอันดับ 68 ของโลก !
สนามบินสุวรรณภูมิเคยรั้งอันดับ 10 ของโลกเมื่อปี 2553 ร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 13, 25, 38 และ 48 ในปี 2554-2557 ตามลำดับ จากนั้นไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 47 และ 36 ในปี 2558 และปี 2559 แต่หลังจากนั้นก็ร่วงมาอยู่ที่อันดับ 38 ในปี 2560 และไต่กลับขึ้นไปที่อันดับ 36 ในปี 2561 หลังจากนั้นร่วงกราวรูดลงมาอยู่ที่อันดับ 46, 48, 66 และ 77 ในปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 และปี 2565 ตามลำดับ
อนึ่ง ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ท่านนายกฯ เศรษฐา ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ท่านได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “10 ปีที่แล้ว 10 ปีที่แล้วนี่เองนะครับ สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินอันดับที่ 13 ของโลก” ในขณะที่ภาพด้านหลังของท่านมีข้อความว่า “สนามบินสุวรรณภูมิเคยเป็นลำดับที่ 13 ของโลกในปี 2548”
ทั้งคำพูดของท่านนายกฯ และข้อความด้านหลังท่านคลาดเคลื่อนและย้อนแย้งกัน กล่าวคือในส่วนของคำพูดของท่านนั้น 10 ปีที่แล้วคือปี 2557 สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในอันดับที่ 48 ไม่ใช่อันดับที่ 13 สนามบินสุวรรณภูมิได้อันดับที่ 13 ในปี 2554
ส่วนข้อความด้านหลังท่านที่เขียนว่าสนามบินสุวรรณภูมิเคยเป็นอันดับที่ 13 ของโลกในปี 2548 นั้น ข้อเท็จจริงก็คือในปี 2548 สนามบินสุวรรณภูมิยังไม่เปิด มาเปิดในปี 2549
ขอย้ำอีกครั้งว่าสนามบินสุวรรณภูมิได้อันดับที่ 13 ในปี 2554 อันที่จริงท่านนายกฯ ควรอ้างอันดับที่ดีที่สุดที่สนามบินสุวรรณภูมิเคยได้รับ นั่นคืออันดับที่ 10 ในปี 2553
3. สนามบินสุวรรณภูมิหรือสนามบินชางงีมีปริมาณการจราจรทางอากาศมากกว่า ?
ในปี 2566 สนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสาร 51.7 ล้านคน สินค้า 1.1 ล้านตัน และเที่ยวบิน 307,505 เที่ยว ในขณะที่สนามบินชางงีมีผู้โดยสาร 58.9 ล้านคน สินค้า 1.7 ล้านตัน และเที่ยวบิน 328,000 เที่ยว
จะเห็นได้ว่าสนามบินชางงีมีปริมาณการจราจรทางอากาศมากกว่าสนามบินสุวรรณภูมิ การที่จะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นฮับของภูมิภาคได้นั้น ปริมาณการจราจรทางอากาศจะต้องไม่น้อยกว่าสนามบินชางงี
4. สนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นฮับได้มั้ย ?
ขอตอบว่าได้ !
การเป็นฮับได้นั้น จะต้องเกิดจากการทำงานประสานกันอย่างเหนียวแน่นระหว่างบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กับสายการบินต่างๆ โดยเฉพาะสายการบินไทย ซึ่งจะทำให้ทั้ง ทอท.และสายการบินมีรายได้เพิ่มขึ้น ทอท.จะต้องหาทางทำให้สายการบินต่างๆ เลือกใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นฐานการบินให้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้มีสายการบินจำนวนมากบินเข้า-ออกสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อมาเปลี่ยนเครื่อง-ต่อเครื่อง ได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย
ทอท.จะต้องทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีบริการที่รวดเร็ว มีความสวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ผู้โดยสารใช้เวลาที่สนามบินได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่เบื่อ มีสิ่งใหม่ๆ นำเสนอตลอดเวลา ราคาอาหาร สินค้าและบริการจะต้องไม่แพง
ทอท.จะต้องเร่งขยายสนามบินสุวรรณภูมิตามแผนแม่บทเพื่อรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศทั้งผู้โดยสารและสินค้าที่กำลังเพิ่มขึ้น เลิกคิดที่จะสร้าง North Expansion หรือ “เทอร์มินัลตัดแปะ” ซึ่งไม่อยู่ในแผนแม่บทเสียที เพราะจะเป็นตัวฉุดให้สนามบินสุวรรณภูมิไปไม่ถึงฝั่งฝัน
การรำพึงรำพันว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นฮับด้วยเพียงเงื่อนไขทางภูมิศาสตร์ มีทำเลที่ตั้งดีเหมือนสมัยก่อนนั้นหมดยุคไปนานแล้ว
ทั้งหมดนี้ ด้วยความหวังที่อยากจะเห็นสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในอันดับต้นๆ ของสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคได้ ไทยทำได้แน่นอนครับ