พบศพชาย อายุ 29 ชาว อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่อยู่ระหว่างพักโทษเสียชีวิตกลางป่ายูคาลิปตัสปริศนาทั้งที่ขายังติดกำไล อีเอ็ม.  คนเลี้ยงวัวเห็นขี่ จยย.เข้าป่า 2 วันก่อนแจ้ง ผญบ.  ตร.เร่งตรวจสอบหาสาเหตุ  ญาติเชื่อไม่ได้ตายเองน่าจะถูกกระทำวอน จนท.ตรวจสอบคลี่คลาย 

  เมื่อเวลาประมาณ 09.30 (2 มี.ค.67)  เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านบ้านสุขสำราญ ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย ว่า มีชาวบ้านที่ไปเลี้ยงวัวพบศพชายนอนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ  ในป่ายูคาลิปตัส ห่างจากหมู่บ้านราว  2 กิโลเมตร จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ 

         

 จากนั้น พ.ต.อ.วิษณุ  อาภรพงษ์  ผู้กำกับการ สภ.ประโคนชัย พร้อม พ.ต.ท.ศิริชัย  เจริญศิริ  สารวัตรเวรฯ สภ.ประโคนชัย, เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน  แพทย์เวรฯ รพ.ประโคนชัย และกู้ภัยบ้านสองเมือง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ  ตามที่ได้รับแจ้ง

  เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพ นายสุริยา   (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาว ต.บึงเจริญ  อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตอยู่กลางป่ายูคาลิปตัส ทางทิศใต้ของหมู่บ้านสุขสำราญ ในสภาพใส่กางเกงขายาว ไม่สวมเสื้อ อยู่ในลักษณะนั่งกึ่งเอนตัวนอน  ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย มีเพียงเลือดไหลออกตาและหู   โดยที่ขายังติดกำไลอีเอ็ม ซึ่งใช้สำหรับผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการพักโทษ    ห่างออกไปประมาณ 100 เมตรพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  ห่างจาก จยย. 20 เมตร พบกระเป๋าสะพาย 1 ใบ พร้อมพาวเวอร์แบงค์  สายชาร์ทมือถือ ลำโพงบูทูธ  บุหรี่  ไฟแช็ก 

 

นอกจากนี้ ห่างจากศพประมาณ 30 เมตร ยังพบเสืัอกองอยู่บริเวณพงหญ้าคาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตายเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ   แต่ไม่พบโทรศัพท์มือถือที่ผู้ตายพกติดตัว ตามที่ญาติให้ข้อมูล   เจ้าหน้าที่จึงได้ขอเบอร์มือถือของผู้ตายจากญาติ   เพื่อลองโทรเข้าก็เป็นสัญญาณว่างตลอด  แต่ไม่มีคนรับสาย   ผู้กำกับฯ  พร้อมตำรวจชุดสืบสวนฯ จึงได้เดินค้นหารอบบริเวณป่ายูคาฯ ที่พบศพ  แต่ก็ไม่เจอมือถือแต่อย่างใด  จากสภาพศพแพทย์สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 ชม.

   จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้ให้หน่วยกู้ภัยฯ  นำศพไปส่งชันสูตรที่ รพ.บุรีรัมย์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง  

   จากการสอบถามนายรณชัย  (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาวบ้านที่ไปเลี้ยงวัวใกล้จุดที่พบศพ   เล่าว่า  ปกติก็จะเอาวัวมาผูกเลี้ยงกินหญ้าตามทุ่งนาใกล้ป่ายูคาที่เกิดเหตุเป็นประจำ  ช่วงเที่ยงวันที่ 29 ก.พ.67 ตอนที่เอาวัวมาเลี้ยงก็เห็นชายคนดังกล่าวขี่ จยย.มาจอดแล้วไปนั่งในป่ายูคาฯ ก็ไม่ได้สนใจอะไร  กระทั่งวันที่ 1 มี.ค.67 ก็มีลุงอีกคนที่เอาวัวมากินหญ้าตามทุ่งนาละแวกดังกล่าว  เขาก็เห็นชายคนเดียวกันวนเวียนอยู่ในป่า   ซึ่งตอนนั้นเขายังมีชีวิตอยู่  แต่ไม่มีใครกล้าถามหรือพูดคุยด้วย   เพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาทำอะไรตรงนี้  พอตกเย็นจึงไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ   กระทั่งตอนเช้าผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านจึงได้พากันมาตรวจสอบดู  ว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครมาทำอะไรตรงนี้  แต่กลับไปพบว่าชายคนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว  จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

  ขณะที่  น้าของผู้ตาย  บอกว่า  หลานถูกจับคดียาเสพติด เมื่อปี 2563 ติดคุกได้ 3 ปี ก็ได้รับการพักโทษและให้ออกมาใช้ชีวิตที่บ้าน โดยการติดกำไลอีเอ็ม และรายงานตัวกับคุมประพฤติตามกำหนด  ที่ผ่านมาเวลาหลานออกไปข้างนอกจะกลับเข้าบ้านก่อน 3 ทุ่มตลอด เพราะถ้าเกิน 3 ทุ่ม กำไลอีเอ็มจะแจ้งเตือน   ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.พ.67 หลานก็ขี่  จยย.ไปส่งตนที่ รพ.บ้านกรวด เพื่อไปเฝ้าพี่สาวซึ่งก็เป็นแม่ของหลานเอง    แต่หลังจาก 10 โมงก็ไม่เห็นหลานชายอีก  

 กระทั่ง 3 ทุ่มไม่เห็นหลานเข้าบ้าน จึงโทรหา แต่ก็ไม่มีคนรับสาย  จึงตัดสินใจโทรหาเจ้าหน้าที่คุมประพฤติให้ช่วยตรวจสอบให้  เพราะเข้าใจว่าถ้าหลานติดกำไลอีเอ็มน่าจะตรวจสอบพิกัดได้  แต่ จนท.บอกว่าตรวจสอบไม่ได้  พร้อมแนะนำให้ไปแจ้งตำรวจซึ่งน้าก็ทำตามที่ จนท.แนะนำ  ก็ไปแจ้งตำรวจ สภ.บ้านกรวดไว้ กระทั่งเช้าวันนี้ 2 มี.ค. มีคนแจ้งว่าพบศพหลานในป่ายูคาฯ ก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก  ก่อนจะรีบเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ   เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของหลานก็ช็อก   ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลานจะเสียชีวิตเอง เพราะหลานเป็นคนแข็งแรงถ้าหากหลานจะลงแดงไม่น่าจะเป็นไปได้  แต่ถ้าขาดน้ำขาดอาหารหลายก็มีรถ จยย.ก็ขับออกไปกินได้  จึงคาดว่าน่าจะถูกกระทำให้เสียชีวิตมากกว่า  แต่ก็ไม่รู่ว่าฝีมือใครหรือใช้วิธีแบบไหน  ที่สำคัญหลานจะไปทำอะไรตรงนั้นถูกหลอกไปหรือไม่  ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบให้เกิดความกระจ่างด้วย

    ขณะที่ ผกก.สภ.ประโคนชัย  ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลหลักฐาน เพื่อคลี่คลายปมสาเหตุการตายให้เกิดความกระจ่าง

    ซึ่งจากข้อมูลประวัติพบว่า นายสุริยา  ผู้ตาย เคยถูกจับคดีทำร้ายร่างกาย เมื่อปี 2558  แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าติดคุกกี่ปีพ้นโทษเมื่อไหร่   และ ปี 2563 ถูกจับคดียาเสพติด  ท้องที่ สภ.บ้านกรวด อยู่ระหว่างพักโทษ  ต้องติดกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า  และต้องรายงานตัวกับคุมประพฤติตามกำหนด