จากกรณี อุบัติเหตุรถกระบะสีดำคันหนึ่งติดไฟไซเรนสีส้มวิ่งเปิดไฟไซเรนมาด้วยความเร็วแล้วพุ่งชนนาย เจ้า เป่า ชุน อายุ 67 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน จนร่างกระเด็นและเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะขับหลบหนีไป เหตุเกิดถนนบางนากาเด้นท์ หน้าโรงแรมมแห่งหนึ่ง ในตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 มีนาคม 2567

        

ล่าสุดเมื่อช่วงสาย วันที่ 2 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบบริเวณทางม้าลายที่อยู่หน้าโรงแรมลาซาลเทล Bangkok มีป้ายและสัญญาณไฟกระพริบบอกเตือน ทางข้ามริมถนน และมีป้ายบอกความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงติดตั้งเอาไว้ด้วย

        

จากการสอบถามนายนิธิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ. โรงแรมดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวกล่าว บริเวณทางม้าลายแห่งนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากวัฒนธรรมของชาวจีน ที่ประเทศของเขาทางม้าลายถือว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย รถเมื่อมาถึงจะต้องชะลอความเร็วและหยุดให้คนเดินข้ามทาง แต่ของประเทศไทยไม่เป็นอย่างที่คนจีน จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้เสียชีวิตชาวจีนเดินข้ามถนนและถูกรถกระบะพุ่งชนเสียชีวิตดังกล่าว

        

ด้าน พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้แจ้งความคืบหน้าในเรื่องนี้กับทางผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า หลังเกิดเหตุและได้รับรายงาน ตนเองจึงสั่งการไปยังฝ่ายสืบสวน สภ.บางบ่อ ให้เร่งติดตามรถกระบะและคนขับรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากเป็นการก่อเหตุบนทางม้าลายและผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย จึงกำชับให้หาตัวคนขับและรถกระบะคันดังกล่าวอย่างเร็วไว และล่าสุดมีรายงาน ฝ่ายสืบสวน สภ.บางบ่อ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวสมุทรปราการ สืบสวนติดตามจนไปพบรถกระบะโตโยต้าสีดำที่มีทะเบียนลงท้ายด้วย 991 แล้ว พบว่าหลังก่อเหตุคนขับได้ขับไปจอดไว้ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งย่านบางปู โดยมีการถอดไฟไซเรนออกเพื่อหวังตบตากับทางตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการชนที่ด้านหน้าฝั่งซ้าย แต่ไม่พบคนขับ ตรวจสอบข้อมูลผู้ครอบครองพบว่าเป็นหญิงสาวรายนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบหญิงรายนี้อ้างว่าขายต่อให้คนงานชาวเขมรไปแล้ว ส่วนคนงานหลบหนีไปหลังเอารถมาจอด ตำรวจจึงสั่งอายัดรถคันดังกล่าวไว้ตรวจสอบและประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานภายในรถคันดังกล่าว พร้อมกับเชิญเจ้าของรถไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อติดตามตัวคนขับรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย