ที่อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ตลาดแทบแตก ด้อมส้มแห่ต้อนรับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลเดินทางมารับฟังปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากหนองวัวซอโมเดลของรัฐบาล ชาวบ้านเผยไม่ได้รับความเป็นธรรม ชาวบ้านอยู่มาก่อนตั้งแต่ปี พ.ศ.2489 ทหารมาขอใช้ที่สุดท้ายไล่ที่ชาวบ้าน ผุดหนองวัวซอโมเดลเปิดให้ชาวบ้านเช่าทั้งที่ชาวบ้านกว่าพันคนไม่เห็นด้วยและไม่ประชาคมกับชาวบ้านเลย พิธาเผยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรธานีในเย็นวันนี้ สู้ขาดใจ
วันนี้ (2 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดบิ๊กซัน ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรคก้าวไกล,นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคก้าวไกลในจ.อุดรธานี เดินทางมารับฟังปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่อ.หนองวัวซอ หลังจากได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีโครงการหนองซอโมเดลของรัฐบาล โดยบรรยากาศการต้อนรับเป็นไปอย่างคึกคัก ด้อมส้มเดินทางมาขอถ่ายรูปและเซลฟี่กับนายพิธากันอย่างล้นหลาม โดยโอกาสนี้น้องเหมียว อายุ 6 ขวบคุณแม่ฯ ได้พามาหาคุณพิธา โดยบอกว่าลูกสาววาดรูปเป็นรูปหัวใจสีส้ม 2 ดวงมาฝากคุณพิธาด้วย
ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่า โครงการหนองวัวซอโมเดลที่รัฐบาลทำขึ้น ถือว่าเอาเปรียบชาวบ้านเพราะทหารมาทีหลังชาวบ้านที่อยู่มาก่อนแล้วมาให้ชาวบ้านเช่า มีชาวบ้านไม่เห็นด้วยหลายพันคน แต่ทหารไม่สน พอผุดโครงการหนองวัวซอขึ้นก็ให้ชาวบ้านมาเช่า โดยที่ไม่ทำประชาคมและรับฟังเสียงชาวบ้านเลย ชาวบ้านอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ พ.ศ.2420 ตั้งแต่บรรพบุรุษปู่ย่าตาทวด ทหารบกมาทีหลัง ปี พ.ศ.2509 ทหารเข้ามาขอใช้พื้นที่เป็นสนามยิงปืน ยังไม่เป็นพื้นที่พัสดุ จากนั้นพ.ศ.2529 ทหารก็มาขึ้นเป็นพื้นที่ราชพัสดุ ชาวบ้านก็ต่อสู้กับทหารมานาน ก็มียื่นถวายฏีกาต่อในหลวง ร.9 พอดี พ.ศ.2532 ทหารก็มาไล่พี่น้องประชาชนอ้างว่าเป็นที่ราชพัสดุ ทหารเขาขึ้นเอาเองไม่เคยประชาคมชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ ทหารทับที่ชาวบ้าน แต่ก่อนทหารมาชาวบ้านมีเอกสารสิทธิทุกคน พวกเรามาก่อนทหาร แต่ทหารมาขอใช้พื้นที่ยิงปืน จากนั้นก็อ้างเป็นที่ทหารมาทับซ้อนที่ชาวบ้าน แล้วจะมาให้ชาวบ้านเช่า จะมาให้ชาวบ้านเช่าได้ไงเพราะที่ตรงนี้เป็นที่ของชาวบ้านมาก่อน
ขณะที่นายพิธา ได้กล่าวสวัสดีกับชาวบ้าน โดยก่อนอื่นได้ขอบคุณพี่น้องชาวจ.อุดรธานี ให้ความไว้วางใจพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่ผ่านมาอย่างถล่มทะลายกว่า 3 แสนคะแนน ถือว่าเป็นการเติบโตที่ไม่ธรรมดา ผมจึงต้องเดินทางมาด้วยตนเอง เพื่อมาขอบพระคุณพี่น้องประชาชน แม้จะไม่ได้มาอันดับ 1 แต่สู้ขาดใจแน่นอนในครั้งต่อไป วันนี้มาดูแลเรื่องความเหลื่อมล้ำในสิทธิของพี่น้องประชาชน พวกเราไม่ใช่นักรบห้องแอร์ อยากลงมาดูพื้นที่จริงๆ เพื่อจะมารับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้าน เรื่องของโครงการหนองวัวซอโมเดล แม้จะเป็นฝ่ายค้านก็จะนำเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านไปพูดคุยในสภา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาที่อ.หนองวัวซอ เพื่อมารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในเรื่องที่ดินที่มีความเหลื่อมล้ำในที่ดิน ซึ่งการจัดการที่ดินเราต้องมีส่วนร่วมกับประชาชน และอยากฝากถึงรัฐบาลลองตรวจดูว่าที่ดินของราชการที่มีอยู่ 8 กระทรวง มีที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งที่ดินตรงนี้สามารถเอามาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำแก้ปัญหาความยากจน และแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบได้เป็นอย่างดี ส่วนที่อ.หนองวัวซอ มีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากโครงการหนองวัวซอโมเดลของรัฐบาล ตามหลักฐานเท่าที่ทราบว่า มีพื้นที่ประมาณ 30,000 กว่าไร่ เป็นพื้นที่ที่ประชาชนอยู่มาก่อน ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่อ.หนองวัวซออย่างเดียว ที่ราชพัสดุทั้งหมด 12 ล้านไร่ครึ่งหนึ่งอยู่กับทหาร ที่เหลืออยู่กับกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงการคลัง ซึ่งที่ดินที่อยู่กระทรวงการคลังฯ ที่เป็นเจ้าของที่ดินของรัฐ ควรเป็นที่ดินที่รัฐจะใช้ประโยชน์จริงๆ ที่เหลือควรหาวิธีให้ประชาชนเข้าถึงที่ดินใช้ประโยชน์จริงๆ เข้าใจว่า กระทรวงการคลังต้องการให้เช่า แต่การเช่า 3 ปี มันไม่มีความมั่นคงในชีวิตและการวางแผนทำมาหากินได้ ความมั่นคงในการเช่ามันไม่มี
นายพิธา กล่าวถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.อุดรธานี บอกว่า สั้นๆ ก็จะบอกว่า สู้ขาดใจ ถ้าดูคะแนนเป็นวิทยาศาสตร์ ตอนเป็นอนาคตใหม่เป็น 140,000 คะแนน เลือกตั้งอบจ.ครั้งที่แล้วได้ 180,000 บาท และบัญชีรายชื่อปี 66 ได้ 300,000 กว่าคะแนน เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ถือว่าเป็นทิศทางที่ดี ศึกครั้งนี้สู้ขาดใจแน่นอน หนึ่งปีที่เหลือใช้เวลาซื้อใจพี่น้องประชาชนให้ได้ โดยว่าที่ผู้สมัคร นายกอบจ.อุดรธานีครั้งนี้ เคยเป็นรองนายกอบจ.อุดรธานี และเป็นทนายความ สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ หวังที่สุดอยากจะเห็นคนอุดรอยู่ที่อุดร แรงงานเก่งๆ จากอิสราเอลและเกาหลีใต้กลับมาบ้านปฏิรูปการเกษตรไทยเพราะเขาเหล่านั้นถือเป็นหัวสมองของแรงงาน อยากให้เขากลับมาบ้านเกิดให้อยู่กับครอบครัวด้วยกันอย่างอบอุ่น////