“พัชรวาท” เกาะติดภัยแล้ง สั่งระดมกำลังช่วยเหลือประชาชน จัดน้ำสะอาดบริการเพื่ออุปโภค-บริโภค ติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยชาวสวนทุเรียน -มังคุด – พืชเศรษฐกิจ พร้อมกำชับให้เร่งสำรวจพื้นที่ประสบภัยเพื่อเข้าไปช่วยเหลือเร่งด่วน

 

เมื่อวันที่ 2 มี.ค.67 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าในการรับมือสถานการณ์ภัยแล้งว่า หลังจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เปิดศูนย์บรรเทาภัยแล้งเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำ ได้มีการรายงานการช่วยเหลือประชาชนในที่เริ่มประสบภัยแล้งในหลายพื้นที่ สำหรับการช่วยเหลือมีทั้งการนำน้ำสะอาดไปให้ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร  เช่น ที่ ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำลี้เข้าคลองส่งน้ำ เพื่อกระจายไปยังพื้นที่เกษตรไม้ผล พืชเศรษฐกิจ ขาดแคลนน้ำ ได้แก่ ลำไย มะม่วง กว่า 500 ไร่ พริก หอม กระเทียม ข้าวโพด มันฝรั่ง ถั่วเหลืองกว่า 700 ไร่  รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ  ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด เพื่อสูบน้ำช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ที่มูลค่าทางเศรษฐกิจ เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์เกือบ 5,000 ไร่  ติดตั้งเครื่องสูบน้ำต.แวงน้อย อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น สูบน้ำกักเก็บน้ำต้นทุนไว้ใช้ พร้อมกับทยอยนำน้ำสะอาดบริการประชาชนที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคในอีกหลายจังหวัด อาทิ นครราชสีมา นครสวรรค์ เป็นต้น

 

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ส่วนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุกใน 5 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการซ่อมบำรุงบำรุงรักษาและฟื้นฟูระบบประปาบาดาลเดิม  2.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบน้ำบาดาลด้วยการเจาะน้ำบาดาลเพิ่มเติม ในโครงการระบบประปาบาดาลเดิมที่ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ในพื้นที่ที่มีศักยภาพน้ำบาดาล  3. โครงการเพิ่มน้ำต้นทุนให้กับประชาชนทั้งน้ำอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่โครงการพระราชดำริ   4.โครงการน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน  5. โครงการน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์    

“ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งทั่วประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและระดมสรรพกำลังในการช่วยเหลือประชาชนในช่วงฤดูแล้งนี้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤต รวมทั้งขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการแจ้งภาวะน้ำแล้ง สามารถโทรศัพท์เข้ามาที่สายด่วน Green Call 1310 กด 4 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล 1310 กด 5 กรมทรัพยากรน้ำ” พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว