ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันสาร์ที่ 2 มี.ค.นี้ เวลา 22.00 น. เป็นเกมระหว่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จ่าฝูงของตาราง จะบุกไปเยือนสนาม ซิตี้ กราวนด์ ของ "เจ้าป่า" น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
29/10/23 ลิเวอร์พูล ชนะ ฟอเรสต์ 3-0
22/04/23 ลิเวอร์พูล ชนะ ฟอเรสต์ 3-2
22/10/22 ฟอเรสต์ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
21/03/22 ฟอเรสต์ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 / เอฟเอ คัพ
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ฟอเรสต์
29/02/24 แพ้ แมนฯยู 0-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
24/02/24 แพ้ แอสตัน วิลล่า 2-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
17/02/24 ชนะ เวสต์แฮม 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
11/02/24 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 2-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
08/02/24 เสมอ บริสตอล ซิตี้ 1-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 13 ชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 6 ได้ 19 เสีย 20
ลิเวอร์พูล
29/02/24 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-0 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
25/02/24 เสมอ เชลซี 0-0 (กลาง) ลีก คัพ
22/02/24 ชนะ ลูตัน 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
17/02/24 ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 4-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
10/02/24 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 13 ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 2 ได้ 26 เสีย 14
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
ฟอเรสต์
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 5 เสีย 5
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 5 เสีย 8
ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 11 เสีย 3
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 9 เสีย 4
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
ฟอเรสต์
ฟอเรสต์ ของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ แมนฯยู 0-1 ในศึก เอฟเอ คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมนี้จะไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก คริส วู้ด, อิบราฮิม ซ็องกาเร่, นูโน่ ตาวาเรส, โอล่า ไอน่า กับ วิลลี่ โบลี่ เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า เอสปิริโต้ ซานโต เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ไตโว่ อาโวนิยี่ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ แอนโธนี่ อีลังก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ กับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ผนึกกำลังกันสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ด้านหลังตามสูตร
คาด11ตัวผู้เล่น
ฟอเรสต์ (4-2-3-1) : มัตซ์ เซลส์ - เนโก้ วิลเลี่ยมส์, เฟลิเป้, มูริลโล่, แฮร์รี่ ทอฟโฟโล่ - ดานิโล่, นิโกลัส โดมิงเกวซ - แอนโธนี่ อีลังก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย - ไตโว่ อาโวนิยี่
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังถล่มเอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-0 ในศึก เอฟเอ คัพ ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นัดนี้จะไม่มีชื่อ 8 แข้งเดี้ยง ขณะที่บรรดา โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, วาตารุ เอนโด กับ โดมินิค โซโบสไล ต้องรอเช็คฟิตจนวินาทีสุดท้าย คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, โคดี้ กั๊คโป กับ หลุยส์ ดิอาซ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ รับอาสาคุมจังหวะจากแดนกลางตามระเบียบ
คาด11ตัวผู้เล่น
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีมิน เคลเลเฮอร์ - โจ โกเมซ, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, บ๊อบบี้ คลาร์ค - คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, โคดี้ กั๊คโป, หลุยส์ ดิอาซ
วิเคราะห์
ชั่วโมงนี้ “ลิเวอร์พูล” ในยุคยังบลัด ถือว่าโชว์ผลงานกันได้ดีและน่าจะพอทดแทนรุ่นใหญ่ที่แท็คทีมกันเดี้ยงแบบยกแพ็ค ยิ่งล่าสุดที่เปิดรังเอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-0 ในศึก เอฟเอ คัพ ถือว่าทำงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม ด้านฟอร์มการเล่นในลีกก็กำลังมั่นใจหลังกำชัย 7 จาก 8 เกมท้าย (แพ้ 1) และผลิตสกอร์เป็นกอบเป็นกำรวมทั้งสิ้นกว่า 26 ประตูเลยทีเดียว สวนทางกับเจ้าถิ่น ฟอเรสต์ ที่ปราชัย 4 จาก 6 หนท้ายในลีกและชนะแค่คราเดียวเท่านั้น (เสมอ 1) แถมโดนทะลวงแนวรับยับเยินร่วมๆ 13 ตุงอีกด้วย เชื่อว่าสภาพความมั่นใจแบบนี้กับทรงบอลแบบนี้น่าจะรอดยาก คาดสกอร์ "ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1"
