"นายกฯ" เดินสายลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา พบเยาวชนบอกเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องสานฝันให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสด้านการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ก่อนมีคิวต่อเนื่อง 2 มี.ค. เยือนร้อยเอ็ดและกาฬสินธุ์  ติดตามสถานการณ์น้ำ - 30 บาทรักษาทุกที่ - ปัญหายาเสพติด
  
  เมื่อวันที่ 28 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจลงพื้นที่ตรวจราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้วันที่สองของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เที่ยวใต้สุดใจ” ที่จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระหว่างวันที่ 27-29 ก.พ.นั้น


โดยเช้าวันเดียวกันนี้ นายเศรษฐา พร้อมด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ,นายสุริยะ จึงรุ่งเรือง รมว.คมนาคม ,พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ,นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และพล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา ที่ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลาโดยมี นายสุไลมาน บือแนปีแน ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ ให้การต้อนรับ โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงได้มีประชาชนชาวจ.ยะลาต้อนรับ พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดง และกล่าวว่า ชาวยะลายินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ภายหลังสักการะศาลหลักเมือง นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ให้อาหารปลาด้วย

จากนั้น นายเศรษฐาได้เยี่ยมชมอุทยานการเรียนรู้ยะลา (TK Park) และทักทายนักเรียนในห้องการเรียนรู้ต่างๆ และเมื่อมาถึงห้อง FabLab Yala เป็นห้องสำหรับผู้ที่มาเรียนรู้จะได้รับการต่อยอดนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ การสร้างสตาร์ทอัพในพื้นที่และการสร้างอาชีพ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการเพิ่มจีดีพีของประเทศในอนาคต  โดยนายเศรษฐา ได้สอบถามการต่อยอดงานวิจัยต่างๆ หากสำเร็จจะต่อยอดอย่างไร และจะตั้งโรงงานขึ้นมาผลิตเองหรือไม่ พร้อมให้กำลังใจให้ทำต่อให้สำเร็จ โดยเฉพาะ Farmer Friends ให้เริ่มจากที่จังหวัดยะลาก่อนและต่อยอดไปในพื้นที่อื่นๆ 


นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังแนะนำผู้ฝึกสอนและเยาวชนด้วยว่า ขอให้มั่นใจในสิ่งที่ทำดี เมื่อเรามีฝีมือ เราเชื่อมั่นว่าเรามีของดี ขอให้ทะเยอทะยาน อย่าถ่อมตน เด็กทำมาแล้วผู้ใหญ่ก็ต้องสนับสนุนให้ต่อยอด ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำมาดีจะสูญเปล่า เพราะที่ผ่านมาก็ได้รางวัลมาเยอะแยะ 


จากนั้น นายเศรษฐา ได้ร่วมรับฟังเวที My Dream ฉันฝัน ฉันเห็น ฉันอยากเป็น ของนักเรียนจังหวัดยะลา ที่ได้เล่าความฝันของตัวเองให้กับนายกรัฐมนตรีรับฟัง และได้ขอสนามบินให้กับชาวยะลา พร้อมสอบถามนายกรัฐมนตรีว่าพวกเราที่อยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้รับโอกาสทางการศึกษาเหมือนกับพื้นที่อื่นหรือไม่ โดย นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ดีใจที่ได้มาดูเรื่องของความฝัน สิ่งที่อยากให้เป็น คำถามเป็นคำถามที่ฟังแล้วน่าคิดว่าจริงๆแล้วพวกหนูที่อยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้รับสิทธิ์ ไม่ได้รับโอกาสเท่าเทียมกับจังหวัดอื่น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องให้ประชาชนทุกคน เด็กนักเรียนทุกคน ที่อยู่ทุกภูมิภาคมีสิทธิมีความเท่าเทียม มีความเสมอภาค และสามารถเข้าถึงโอกาสได้เท่าเทียมกัน

ขณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 บอกว่า มีความฝันอย่างเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ และสิ่งที่อยากให้จังหวัดยะลาเป็นคืออยากให้รัฐบาลช่วยให้พี่น้องได้มีความเสมอภาค มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตและได้เรียน และอยากให้จังหวัดยะลาเป็นเมืองท่องเที่ยว มีชาวต่างชาติเข้ามา และหากได้รับงบประมาณจะทำให้เมืองเติบโตกว่านี้ พร้อมสอบถามนายกฯว่า นายกฯมีความฝันใดในขณะที่อายุเท่าพวกเรา  โดย นายเศรษฐา กล่าวว่า ที่ได้อธิบายมาหลายเรื่องมันขึ้นอยู่กับความฝันและแรงบันดาลใจของน้องๆที่อยู่ที่นี่ทุกคน ตนมาวันนี้ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หน้าที่ของตน ใครอยากได้อะไร ใครอยากเป็นอะไร เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องสานฝันให้ทุกท่านเข้าถึงโอกาส ได้รับการสนับสนุนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมเพื่อให้ไปถึงจุดที่ทุกคนมีความฝันที่อยากจะเป็น หลายอย่างที่บอกมาอยู่ในแผนงานของรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องการสร้างสนามบิน การสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยว การเข้าถึงการศึกษาได้เท่าเทียมกัน และที่บอกว่าอยากฝันว่าเข้าถึงการศึกษาที่เมืองใหญ่ๆได้ แต่ทำไมที่นี่จะเป็นศูนย์กลางการศึกษาไม่ได้ ตนเข้าใจว่าที่นี่ไม่ได้มีศักยภาพเท่ากับจังหวัดอื่นที่ตนเคยไปมา ที่นี่มีครบหมดทุกอย่าง และเรื่องงบประมาณที่เราจัดสรรให้ ตนเชื่อว่าเราดูอย่างเหมาะสมและเสมอภาคเท่าเทียม 

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า บางเรื่องเกี่ยวข้องกับดีมานด์ ซัพพลาย เรื่องของสนามบินเป็นเรื่องที่ดี วันที่ 1 มี.ค.นี้ ตนจะประกาศใหญ่และเชื่อว่าวันหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ที่นี่จะสามารถมีสนามบินได้และสามารถใช้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี มีความต้องการของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากจะมา ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 2 ในการลงพื้นที่นี้ ไม่ใช่จังหวัดยะลาอย่างเดียว เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ได้ไปที่จ.ปัตตานี วันนี้มาที่จ.ยะลา ได้เห็นสิ่งดีๆสิ่งที่น่าจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างดีมาก เป็นวัฒนธรรมประเพณี ผังเมือง บ้านโบราณเหล่านี้เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น ฉะนั้นเป็นการส่งเสริมโอกาสที่พวกหนูอยากมี เช่นอย่างมีโอกาสไปศึกษาที่จังหวัดอื่น ขอบอกว่าวันนี้อยากเป็นครูก็อยู่ที่นี่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ความรู้ที่ดีให้กับคนพื้นที่ดีกว่า ไม่ต้องไปต่างจังหวัดอื่นๆที่ใหญ่ ซึ่งเป็นความฝันที่เกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้นี้ 
นายเศรษฐา กล่าวยืนยันว่า เรื่องของโอกาสสำคัญสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพ ถ้าผู้ใหญ่มาแล้วไม่เห็น มาแล้วไม่ทำผู้ใหญ่ก็ผิด แต่วันนี้ตนเชื่อว่า ตนไม่ได้มาคนเดียวไม่ว่าจะเป็นรมว.คมนาคม เพื่อมารับผิดชอบสนามบินถนนหนทาง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ก็มาผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็มา รมช.มหาดไทยก็มาดูถนนหนทางและปัญหาน้ำท่วมที่ท่วมแล้วท่วมอีก เราพยายามเข้ามาจัดการให้ได้และเชื่อว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีทั้งสันติภาพ สันติสุข ความสุข ที่ประชาชนในพื้นที่เพิ่งจะได้รับ การทะนุถนอมและนำไปสู่ศักยภาพที่ทุกท่านสามารถเป็นได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ตนอยากเห็นและอยากกลับมาอีก มาดูความคืบหน้าของทุกโครงการที่ได้ทำกันไว้ในวันนี้

จากนั้น นายเศรษฐา ได้ถ่ายภาพร่วมกับเยาวชน และรับชมดนตรีเพลงเสน่ห์ยะลาและเพลง Can't Help Falling in Love  จากวงออเคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา โดยนายกฯได้ส่งกำลังใจพร้อมส่งจูบ และมอบช่อดอกไม้ให้ ต่อจากนั้นนายกฯ ชมนิทรรศการผ้า ที่เป็นผ้าเทคนิคย้อมด้วยแสงเป็นหนึ่งในกลุ่มผ้ามัดย้อม แบรนด์ pakaian melayu

สำหรับภารกิจของนายเศรษฐา ภายหลังจากการลงพื้นที่ตรวจราชการสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายเศรษฐามีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ โดยเวลา 08.45 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด โดยจุดแรกเวลา 09.45 น. ติดตามประเด็นการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง ต.พระธาตุ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด 

นอกจากนี้ จะเดินทางไปที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้ากุดแคน ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามประเด็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง และเดินทางไปยังบริเวณพนังกันลำน้ำชีชั่วคราว กม.6 บ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อหารือประเด็นการแก้ไขปัญหาพนังกั้นลำน้ำชีทรุดตัว ก่อนที่ช่วงบ่ายเวลา 13.45 น. ประชุมหารือประเด็นปัญหาและแผนพัฒนาจ.กาฬสินธ์ที่ศาลากลางจ.กาฬสินธุ์

จากนั้นเวลา 15.30 น. เดินทางไปยังพื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยส้มป่อย ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์หารือประเด็นการบริหารจัดการน้ำเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บและใช้สำหรับการอุปโภค ก่อนจะเดินทางไปที่ว่าการอำเภอโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อประชุมหารือประเด็นปัญหาและแผนพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ดในประเด็น 30 บาทรักษาทุกที่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด การพัฒนาท่องเที่ยวบึงโพนทอง การพัฒนาโครงข่ายคมนาคม ติดตามความล่าช้าในการออกโฉนด สค.1 และที่ดินว่างเปล่า ของ อ.โพนทอง หนองพอก เมยวดี โพธิชัย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ