นายกฯ ไหว้หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด สนธนาธรรม เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ฝากดูแลความมั่นคงให้หวังฟื้นฟูการท่องเที่ยว “เศรษฐา” บอกมีสัญญาณบวก

เมื่อเวลา 11.25 น.วันที่ 28 ก.พ. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังพร้อมคณะเดินทางมายังวัดช้างให้ เพื่อสักการะหลวงปู่ทวด และนมัสการพระสุนทรปริญัติวิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 

 

จากนั้นนายกฯ ได้สนทนาธรรมกับพระสุนทรปริยัติวิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ซึ่งทางเจ้าอาวาสได้สอบถามนายกฯ ว่าลงมาพื้นที่จังหวัดภาคใต้มีภารกิจอะไรบ้าง โดยนายกฯ กล่าวว่า มาจ.ปัตตานี มาดูเรื่องโอกาสมาดูเรื่องวัฒนธรรม เรื่องการท่องเที่ยว เพื่อมาสนับสนุนส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนทราบว่าเราให้โอกาสความเท่าเทียมในภูมิภาคนี้ เชื่อว่าตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วมาจนถึงรัฐบาลนี้ ในเรื่องสันติภาพชัดที่สุด อยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชนทุกคน และเราก็มาในทางที่ถูกต้องแล้ว 

 

เจ้าอาวาส กล่าวตอบว่า การท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดนี้มีพร้อม ทะเล ภูเขา ป่าไม้ ญาติโยม อยากจะมาเที่ยว 3 จังหวัด ขออย่างเดียว การท่องเที่ยว จะฟื้น เมื่อเรา เกิดความสงบ ถ้าความสงบเกิดขึ้น ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน การท่องเที่ยว ที่พูดไปทั้งทะเลก็พร้อม ป่าไม้น่าเที่ยว จ.ยะลา จ.ปัตตานีจ.นราธิวาส น่าเที่ยว จึงฝากนายกฯทำอย่างไร ให้ความปลอดภัย กับชีวิตทรัพย์สิน ต้องฝากตรงนี้ การท่องเที่ยวคนกรุงเทพฯก็อยากมา เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว เบตง วัดช้างให้นราธิวาส มีหลายที่ สถานที่ท่องเที่ยวพร้อม ขาดอย่างเดียวความสงบ ส่วนเรื่องอาหาร 3 จังหวัดไม่แพง มีเยอะแยะ ข่าวว่าโยมจะรื้อฟื้นอาหารฮาลาน ก็เห็นด้วย อาหาร ทะเลต้องฟื้นตัว ทั้ง 3 จังหวัด ต้องฝากด้วย  สงสารชาวประมงแย่ ที่ปัตตานี เรามีการเกษตรน้อย ทำการประมงเป็นหลัก ถ้าประมงดี เศรษฐกิจก็ดี ก็จะสะพัด ดูญาติโยมในส่วนที่ทำประมงอาชีพประมงแย่ คนงานของเรา จะไปอยู่มาเลเซียกันเยอะ ทำให้มาเลเซียได้ประโยชน์เต็มๆ ก็ต้องฝากตรงนี้ด้วย 

 

เจ้าอาวาส กล่าวว่า ในเรื่องวัฒนธรรมที่อำเภอยะรัง อยากให้ ฟื้นฟูลังกาสุกะ เป็นที่โบราณ ซึ่งนายทวี สอดส่อง รู้ดี เป็นสถานที่สำคัญ เป็นวัตถุโบราณ ถ้าได้รื้อฟื้น ญาติโยมก็จะมาดูวัดโบราณกันเยอะ ให้โอกาสรื้อฟื้นพัฒนา เพื่อเชิดหน้าชูตาจังหวัดปัตตานี เป็นมรดกทางวัฒนธรรมหรือเป็นมรดกโลกก็ว่าได้ 

 

ด้านนายกฯ กล่าวว่า เรื่องความสงบมั่นใจฝ่ายความมั่นคงได้ดำเนินการควบคู่ไปกับเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจและมีความคืบหน้าในทิศทางที่เป็นบวกมากในระยะ1- 2 ปีที่ผ่านมา สำหรับเรื่องเศรษฐกิจตนน้อมรับไปทำต่อ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว วัฒนธรรม  หรือการประมงที่เป็นหัวใจของพี่น้องชาวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้   เราได้มีการแก้กฎหมาย ซึ่งพระราชบัญญัติประมงก็ได้เสนอเข้าสภาฯไปแล้ว รัฐบาลนี้ตระหนักดีและพยายามแก้ไขพัฒนา หวังว่าคงมีทิศทางบวกในเร็วๆนี้ 

 

เรื่องของวัฒนธรรมต่างๆ จากการได้ไปปัตตานีมา  มีหลายๆอย่างเริ่มจะสูญเสีย เช่น ทองเหลือง คนที่มีความเชี่ยวชาญเริ่มอายุมาก จึงสั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรมและฟื้นฟู เพื่อเสริมรายได้ให้กับประชาชน และต้องดูต่อไปหากพี่น้องมีโอกาส แล้วนำสิ่งดีๆขึ้นมาได้แล้ว  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแรงงาน ก็ต้องให้มีแรงงานที่เพียงพอ  หรือบางธุรกิจ ต้องการแหล่งเงินทุน  ต้องให้สถาบันการเงินเข้ามาอุดหนุนเสริมศักยภาพให้ได้ เพราะหากมีโอกาสแล้วไม่มีแรงเงินทุนก็ไม่สามารถทำได้

 

ตนเดินทางไปต่างประเทศเยอะไปเปิดตลาดค้าขายในต่างประเทศ  และมีความสัมพันธ์ที่กับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย รวมถึงกษัตริย์บรูไน 

ทุกท่านอย่างพัฒนาเรื่องอาหารและทำให้เราเป็นครัวโลก ทำให้มีความมั่นคงทางอาหารและส่งอาหารไปขายทั่วโลกได้ ทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ที่สูงขึ้น และมีรายได้อย่างเต็มที่

 

ทั้งนี้เจ้าอาวาสได้ย้ำให้ นายกฯ ช่วยดูแลลังกาสุกะ ให้ฟื้นขึ้นมา เชื่อว่า ปัตตานียะลา นราธิวาส จะมีการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวีไปดูแลต่อ

 

ทั้งนี้หลังทราบว่านายกฯ จะเดินทางต่อไปที่อ.เบตง จึงฝากให้ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะเบตงขนาดนี้ค่อนข้างที่จะบูม  แต่ก็อันตราย กระทบเรื่องอากาศดีเริ่มจะร้อน เพราะต้นไม้ถูกตัดหมด  นายกฯรับปากและบอกว่า ต้องให้มีความสมดุลระหว่างความเจริญกับธรรมชาติ

 

ก่อนเดินทางกลับ พระสุนทรปริญัติวิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ได้มอบรูปเหมือนหลวงปู่ทวด ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว 2566 พร้อมพระผงหลวงปู่ทวดปี 2551 รุ่นบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ ให้กับนายกฯ