จากกระแสในโซเชียลมีเดียเตือนภัยแมงกะพรุนหาดชลาทัศน์ จ.สงขลา พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกพิษแมงกะพรุนหลายรายทั้งในพื้นที่อ.สิงหนคร มาจนถึงที่อ.เมือง จ.สงขลา ตลอดแนวหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา สงขลา ดังที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.67 ที่หาดชลาทัศน์ จ.สงขลา  บริเวณริมหาดพบว่ามีแมงกระพรุนสายพันธุ์  หมวกโปรตุเกส ลักษณะเด่น หัวมีสีขาวเหมือนหมวกทหารเรือรบโปรตุเกสโบราณ ลำตัวมีสีน้ำเงิน มีพิษร้ายแรง โดยเฉพาะคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หากไปโดนพิษแมงกะพรุนชนิดนี้ อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต พบมากในช่วงมรสุม ส่งผลให้ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลในห้วงเวลานี้ พบแมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส ถูกคลื่นซัดเข้ามาบริเวณชายหาดต่างๆ ตลอดแนวทั้งจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี สงขลา กระบี่ ภูเก็ต

ด้านนายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา เปิดเผยว่า ปรากฎการณ์ของแมงกะพรุนหมวกโปรตุเกสจริงๆ เจอกันเป็นประจำตามฤดูกาล แต่ปีนี้จากการสำรวจพบว่ามีมากกว่าปีก่อนๆมาก ตั้งแต่ริมหาดตลอดแนวไปจนถึงกลางทะเลใกล้เกาะหนูเกาะแมว ซึ่งขณะนี้ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดประชาสัมพันธ์และเฝ้าระวังเชิงรุก และห้ามนทท.ลงเล่นน้ำ หากพบมีผู้ถูกพิษแมงกะพรุนชนิดนี้ก็จะเร่งให้ไลฟ์การ์ดปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที โดยระหว่างนี้ไปจนถึงต้นเดือนเมษายน ก็ยังจะพบแมกะพรุนไฟโปรตุเกสอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวระมัดระวังในการลงเล่นน้ำหากพบแมงกะพรุนไฟดังกล่าวอย่าเข้าใกล้เด็ดขาดและหากโดนพิษให้เร่งเอาน้ำส้มสายชูราดที่ผิวหนังทันที ซึ่งทางเทศบาลนครสงขลามีบริการไว้ตามจุดต่างๆ ตลอดแนวหาดแล้ว 

สำหรับแมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส (Portuguese man-of-war) เป็นแมงกะพรุนไฟสายพันธุ์ Physalia มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส” จัดเป็นแมงกะพรุนไฟที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก มีลําตัวสีชมพูม่วง น้ำเงิน หรือเขียว ยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร รูปร่างของร่มแมงกะพรุนมีลักษณะคล้ายเรือใบ ลักษณะภายนอกของลําตัวมีปากยื่นยาวออกมาจากลําตัว และมีหนวด (ยาวได้มากถึง 30 เมตร) ออกมาจากขอบร่มเป็นสายยาว โดยปกติจะไม่พบในน่านน้ำไทย ส่วนใหญ่จะพบในทะเลเปิดของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย แต่จะอาจจะถูกกระแสน้ำพัดมาเกยตื้นหรือเข้าสู่น่านน้ำไทยได้ในบางฤดูกาล

 

#แมงกะพรุนพิษ #หาดชลาทัศน์ #สงขลา