วันที่ 27 ก.พ.67  เวลา 14.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ณ ศาลหลักเมืองปัตตานี อ.เมืองปัตตานี  นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี  พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่   ร่วมต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมสักการะศาลหลักเมืองปัตตานี พร้อมคณะฯ

จากนั้น เวลา 14.45 น. ที่ มัสยิดกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ ได้เดินทางเยี่ยมชม มัสยิดกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี และเดินตลาดวิถีชุมชนพื้นบ้าน โดยนายฟาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ ประชาชนให้การตอนรับทามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เดินเข้าชมภายในมัสยิดกรือเซะ จากนั้นเดินไปหาจุดที่ผู้นำชุมชน และประชาชนตอนรับ ทั้งนี้มีหนึ่งในชาวบ้านได้ออกมาพูดให้นายกรัฐมนตรีได้แก้ไข สะพานสูง บริเวณพื้นที่ ต.ตะลุโบะ อ.เมือง ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งหน้าสู่ จ.ยะลา โดยชาวบ้านอยากให้มีการสร้างสะพานใหม่เพื่อข้ามเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ จ.ยะลา ประชาชนที่มาจากในเมือง จะได้รอดใต้สะพาน มุ่งหน้าสู่ยะลา โดยไม่ต้องอ้อม ซึ่งนายกฯรับทราบพร้อมประสานให้ผู้ว่าจังหวัดปัตตานีดำเนินการ

 ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตีได้เดินชมพิพิภัณฑ์ ที่มีเครื่องทองเหลืองเป็นจำนวนมาก ที่เป็นเครื่องของโบราณ โดยผู้นำชุมชนได้มีการบรรยายให้ฟัง โดยนายกฯ กล่าวว่าจะรับไปพิจารณาในเรื่องการบูรณะพิพิธภัณฑ์และเครื่องทองเหลืองให้เร็วที่สุด จากนั้นได้เดินทางไปยังบูธที่มีการจัดแสดงอาหารพื้นที่ถิ่น และมีอาหารเป็นนวนมากที่จัดแสดงขึ้น ปรากฏว่านายกมีการชิมอาหารทุกบูธด้วยความอร่อย พร้อมมีการเอ่ยว่าอาหารที่นี่อร่อย แปลก และอาหารบางชนิดในกรุงเทพไม่มีและก็ไม่เคยได้ทาน และอาหารที่นายกสนใจเมี่ยงคำสมุนไพร พร้อมบอกว่าจะนำเอาเมี่ยงสมุนไพรขึ้นเป็นอาหารบนการบินไทย

นอกจากนี้นายกฯยังได้ชมสินค้าotop เสื้อผ้าต่างๆ และจุดที่ต้องหยุดดูนาน คือจุดสินค้า หมวกกะปิเยาะ ที่คนมุสลิมนิยมสวมใส่ในเวลาละหมาด ซึ่งนายกก็ได้หยิบขึ้นมาสวมใส่ ทำให้ทุกคนต่างยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป

ขณะเดียวกันยังได้เดินชมภาพวาดของนายสุไลมาน ยาโม ซึ่งเป็นนักวาดภาพดับไฟใต้ด้วยพู่กัน ได้วาดขึ้น ซึ่งมีภาพต่างๆ ที่บ่งบอกอัตลักษณ์ปัตตานี  และมีการมอบภาพวาดนายกฯที่นายสุไลมานเป็นคนวาด โดยนายกฯได้ให้เงินสดซื้อภาพวาดหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่า 30,000 หมื่นบาทของนายสุไลมานด้วย  

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำลังจะขึ้นรถนั้น มีน้องนักศึกษาอยากเข้าไปถ่ายรูปกับนายกฯซึ่งนายกก็เต็มใจให้ถ่าย เป็นบรรยากาศที่น่ารัก และเป็นกันเองเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มชาวบ้านที่รอได้เข้ามารอวยพรให้มีร่างกายแข็งแรง และมีอายุที่ยืน   

 

ต่อจากนั้น เวลา 15.40 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี ได้แก่ บ้านขุนพิทักษ์รายา, บ้านเลขที่ 5 กือดาจีนอ, ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ, และนายกเดินเข้าในศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว)  เพื่อกราบไหว้สักการะเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี้ยว พร้อมเยี่ยมชมมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี” ประจำปี 2567 บริเวณ ถนนอาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี

สำหรับเป้าหมายของการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดชายแดนใต้ "เที่ยวใต้ สุดใจ"    เพื่อต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้  ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและความครึกครื้นภายในจังหวัด ดึงดูดนักท่องเที่ยว เข้ามาสัมผัสเรื่องราวดีๆ ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่มีความรักความสามัคคีมีอัธยาศัยดี จ.ปัตตานี พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และผู้มาเยือน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ เอสยูวี สีขาว ป้ายทะเบียน 4 กษ 3081 กรุงเทพ