วันที่ 27 ก.พ.67 ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.05 น. ภายหลังจากนักศึกษามหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ยื่นหนังสือที่สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสร็จสิ้น ก็ได้เดินเคลื่อนขบวนต่อมายัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) โดยใช้ถนนพระรามที่ 1 เข้าถนนพระรามที่ 6 ซึ่งช่วงหนึ่งได้เคลื่อนขบวนผ่าน สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน โดยนักศึกษาทั้งหมด ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรเป็นพิเศษ เพียงแค่มีการท่องบทกลอน ที่ชื่อว่า ‘ถ้าเรารัก’ ซึ่งเป็นบทกลอนประจำอุเทนถวาย เพื่อใช้ในการปลุกขวัญและกำลังใจ และมีการทรองบทกลอนนี่ตลอดเส้นทางที่เคลื่อนขบวนมาจนถึงกระทรวง อว.
เมื่อมาถึงกระทรวงฯ ตัวแทนนักศึกษาอุเทนถวาย ได้เจรจาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดประตูทางเข้า เพื่อขอเข้าไปใช้พื้นที่การทำกิจกรรมบริเวณด้านใน เพื่อไม่ให้กระทบกับการจราจรของประชาชนบนถนนโยธี และมีการจอดรถปราศรัยถึงเหตุผลของการคัดค้าน และ ข้อเรียกร้องในการทำกิจกรรมคัดค้านการย้ายที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเขตพื้นที่อุเทนถวาย เนื่องจาก อุเทนถวาย ต้องการที่จะพบกับ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และยื่นหนังสือกับท่านด้วยตนเอง ทำให้ตัวแทนของกระทรวง เลขารัฐมนตรีมาเจรจาพูดคุยหลายรอบก็ไม่เป็นผล และทางอุเทนถวายยื่นคำขาดหากไม่มารับหนังสือและเจรจาด้วยตนเองจะปักหลักชุมนุมไปเรื่อยๆ
จนในเวลา 14.05 น. นางสาวศุภมาส ลงมาพบตัวแทนของสโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย ที่บริเวณห้องรับรอง อาคาร สำนักปลัดทรวง อว. โดยใช้เวลาในการพูดคุย และยื่นหนังสือ 20 นาที
จากนั้นในเวลา 14.25 น. นางศุภมาส ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน ระบุว่า ได้รับฟังข้อเรียกร้องและรับหนังสือจากทางตัวแทนอุเทนถวายแล้ว โดย วันนี้ ตนเองออกมายืนยันว่า ปีนี้อุเทนถวายยังคงสามารถเปิดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อยู่ เพราะทางประชาคมอุเทนถวายมีความกังวลเรื่องนี้หลังจากที่ตนเองได้ให้สัมภาษณ์ไปว่ามีคำสั่งให้ปิดรับ ทั้งนี้ก็เป็นไปตามระบบที่ทางมหาวิทยาลัยได้กำหนดไว้ และทางอุเทนถวาย ได้ยื่นข้อเรียกร้องต้องการให้กระทรวงอว. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพิ่มเติมบางส่วนที่ยังไม่ครบ และเรานอกจากยึดหลักกฎหมายแล้วต้องยคดหลักมิติการปกครอง
เมื่อถามว่า วันนี้ได้ข้อสรุปว่าจะย้ายวิทยาเขตอุเทนถวายออกไปจากพื้นที่เดิมหรือไม่ นางสาวศุภมาศ ระบุว่า สำหรับเรื่องนี้เราไม่ได้พูดคุยกันเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาทางกระทรวง อว.ได้พูดคุยกับคณะผู้บริหารของอุเทนถวายมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเองก็คงมีแผนอยู่แล้ว และจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภามหาวิทยาลัย ซึ่งทางกระทรวงก็ต้องรอแผนว่ามหาวิทยาลัยจะมีแผนย้ายหรือว่าขยับขยายไปที่ไหนอย่างไร งบประมาณเท่าไหร่ ทั้งหมดกระทรวง อว. รอฟังอยู่
ขณะเดียวกัน นายคูณแสน โควศวนนท์ นายกสโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย ได้แถลงภายหลังจากหารือและยื่นหนังสือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว.ว่า และอ่านแถลงการณ์ โดยระบุว่า วันนี้รัฐมนตรีฯ ก็ได้ตอบรับข้อเสนอ ของประชาคมอุเทนถวาย 6 ข้อ คือ คัดค้านการย้ายอุเทนถวายออกจากที่ตั้งเดิม /เสนอให้ยกระดับวิทยฐานะ /ให้อุเทนมีเอกสิทธิ์ในการบริหารจัดการตนเอง/ให้อุเทนถวายเป็นสาธารณประโยชน์ สมบัติของประเทศชาติ /ขอให้ระงับการโยกย้ายบุคลากรและนักศึกษาออกจากพื้นที่เดิม /และขอให้ทำหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนข้อเสนอที่ได้เสนอไปเพื่อให้ทำให้สำเร็จลุล่วง โดยให้ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย และต้องมีบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคู่กรณี
ทั้งนี้ หากรัฐมนตรีเห็นสมควรตามแนวทางข้อรียกร้องก็ขอให้มีการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมต่อไป ส่วนการประชุมในครั้งต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. จะเป็นคนกลาง เพื่อเรียกไปประชุม
นายคูณแสน บอกอีกว่า ส่วนตัวหลังจากยื่นหนังสือแล้ว ก็สบายใจขึ้น และคาดว่าหลังจากนี้จะได้รับคำตอบที่ชัดเจนขึ้น ส่วนจะประชุมอีกครั้งเมื่อไร คงต้องรอการนัดหมาย ทั้งนี้จะมีการยกระดับการเคลื่อนไหวหรือไม่ หากจ้อเรียกร้องไม่ได้ตามที่ยื่นข้อเสนอไป มองว่า ก็เป็นเรื่องของอนาคต
ด้านตัวแทนประชาคมอุเทนถวาย ที่เข้าร่วมประชุม กล่าวเสริมว่า หลังจากนี้ปลัดกระทรวงอย. จะมีการเรียกประชุมอีกครั้ง โดยจะใช้องค์กระชุมเก่า และจัเพิ่มเงื่อนไขข้อเรียกร้องนี้เข้าไปในการพิจารณาด้วย ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ข้อยุติจะต้องมุ่งเน้นเรื่องการศึกษาเป็นหลัก
ภายหลังยื่นหนังสือ เสร็จสิ้น อุเทนถวายก็ได้นำนักศึกษาขึ้นรถบัส รถสองแถว และรถจักรยานยนต์ เคลื่อนขบวนเดินทางไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือที่สุดท้าย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มาดูแลความสงบเรียบร้อย