วันที่ 26 ก.พ.2567 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้าน ม.4 ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ไพจิตร  หรือไก่ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุเผานั่งยางศพ น.ส.เบญญาภา   อายุ 47 ปี หรือเป้ อยู่บ้าน หมู่ 20 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เหตุเกิดที่บ่อขยะ ม.4 ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่นโดยได้พบกับ นายอุดม  พ่อของ น.ส.ไก่ อายุ 63 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเบาหวานต้องตัดขา พร้อมทั้งมีโรคความดันสูง และโรคไต โดยมีญาติพี่น้องและลูกหลานดูแลอยู่ที่บ้าน

นายอุดม กล่าวว่า  ทั้งหมดเป็นตามที่ลูกพูดทุกอย่าง ย้อนกลับไปประมาณ 4-5 ปี น.ส. ไก่มาเล่าให้ฟังว่าเสี่ยกล้วยเป็นคนไถ่ที่ดินออกมา และก็ไม่รู้ว่าลูกสาวเอาที่ดินไปจำนอง ซึ่งลูกมาบอกว่าเอาที่ดินไปจำนองมารักษา น.ส.เป้ เนื่องจาก น.ส.เป้ป่วยตั้งแต่แรกที่เห็นกัน เป็นเส้นเลือดในสมองตีบ อัมพฤกษ์ซีกซ้ายไม่สามารถใช้งานได้ ผอม ตัวเหลือง  จนกระทั่งมาเกิดเหตุ หยิบจับของได้เพียงข้างขวา โดยจะมีน.ส.ไก่เป็นคนดูแลทุกอย่าง 

ซึ่งนายอุดม กล่าวว่า ได้บอกลูกว่าเอาคนมารับผิดชอบแบบนี้ได้ยังไงทำไมไม่เอาคนอื่นที่จะมารับผิดชอบตัวเอง แต่ทำไมถึงเอาตัวเองไปรับผิดชอบคนอื่น ซึ่งพ่อก็พูดมาตั้งแต่แรกแต่ไก่ก็ไม่ตอบโต้ พ่อแม่พูดอะไรไม่โต้ตอบ ไม่เถียง ส่วน น.ส.เป้เป็นคนอารมณ์ร้อน น.ส.ไก่ก็จะคอยเป็นน้ำเย็นนิ่งเฉยและเหตุการณ์ก็จะสงบไป ซึ่งในช่วงที่อยู่กรุงเทพฯ ตนเองขายปลา ลูกสาวขายผัก พอมีเงินเก็บบ้างก่อนจะย้ายมาที่ขอนแก่น

ทั้งนี้ นายอุดม ยังกล่าวต่ออีกว่า เรื่องที่ลูกไปรักใคร่ชอบพอกับเสี่ยกล้วยนั้นไม่รู้ มารู้เพียงว่าคบหากันเป็นเพื่อนเมื่อปีที่แล้ว โดยบอกว่ามาดูความเป็นอยู่ว่าครอบครัวอยู่อย่างไร และพากันไปไหว้พระก่อนจะกลับมา และสั่งแทงค์น้ำมาติดตั้งให้ที่บ้านเพื่อให้ใช้น้ำได้อย่างสะดวก แต่เรื่องส่วนตัวอื่นๆ น.ส.ไก่ไม่ได้เล่าให้ฟัง และตนเองก็ไม่ไปถามจุกจิกปล่อยให้ลูกใช้ชีวิต 

ขณะที่ในวันที่ไปสมุทรปราการนั้น ไก่กับเป้ก็บอกพ่อว่าจะไปทำความสะอาดบ้าน ช่วงนี้หญ้าเริ่มรก พร้อมทั้งบอกลูกว่าจะไปทำงานนะลูกเดี๋ยวกลับมา ซึ่งก็เป็นปกติ และ น.ส.เป้เองก็จะออกไปตามหาพ่อแม่ที่ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่มาอยู่ขอนแก่น จึงพากันทำความสะอาดบ้านไว้ เตรียมจะต่อน้ำต่อไป เผื่ออยากไปตามหาแม่ และแม่ ของ น.ส.เป้ นั้นตนเองก็ไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็น ไม่เคยมีข้อมูลของครอบครัวฝ่าย น.ส.เป้ เลย แต่ส่วนตัวก็รักเหมือนลูก และในช่วงหลังจากที่น.สไก่กลับจากสมุทรปราการ พอลงรถถึงบ้าน พ่อถามว่า น.ส.เป้ไม่มาเหรอ ไก่บอกว่ารออยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ก็พูดเท่านั้นเพราะคิดว่าลูกมาถึงบ้านแล้วสบายใจแล้วตนเองก็นอน

ส่วนจะมีศพหรือมีอะไรในรถไม่ได้ไปสนใจ และก็ไม่เห็นว่ามีพิรุธอะไร หลังเกิดเหตุตำรวจมาบ้าน มาจับลูกสาว พ่อไม่ได้ถามลูกสาวสักคำ เพราะยังตั้งสติไม่ได้ พูดไม่ออก มันตื้อในหัวไปหมด ไม่คิดว่าลูกจะทำแบบนั้นได้ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าลูกทำ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ตอนนั้นไม่รู้จะถามอะไร อีกใจก็กลัวจะเป็นการทับถมลูกเกินไป จึงเงียบเฉย เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย พ่อไม่เชื่อว่าลูกจะฆ่าคนได้ แม้แต่เถียงพ่อแม่ก็ไม่เคย เป็นคนสนุกสนาน ชอบเล่นกับเพื่อน ไม่ใช่คนใจดำอัมหิต ไม่เคยด่าหรือเคียดแค้นอาฆาตใคร จะไม่ค่อยพูดจะเป็นคนเงียบๆเวลาอยู่กับพ่อแม่