ชาวผู้ไท อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จัดพิธีเหยาสืบสานตำนานเลี้ยงผีตามประเพณีโบราณ สืบต่อความเชื่อที่สืบทอดจากบรรพบุรุษเพื่อต้อนรับหมอเหยาคนใหม่ในการทำหน้าที่เพื่อธำรงอัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ให้อยู่คู่สังคมสืบไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ที่บริเวณด้านหน้าบ้านเลขที่ 198 ม.5 บ้านโคกโก่ง ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีการจัดตั้งเต้นท์เพื่อให้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมการเหยา หรือการเลี้ยงผีบรรพบุรุษตามความเชื่อของคนเผ่าผู้ไท โดยมีคณะหมอเหยา และนักดนตรีพื้นบ้าน ในจ.กาฬสินธุ์ และใกล้เคียง ที่ใช้เป็นเครื่องประกอบพิธีกรรม เข้าร่วมพิธีกรรมดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ก่อนพิธีกรรมจะเริ่มขึ้น นักดนตรีพื้นบ้านได้บรรเลงดนตรีเป็นจังหวะทำนองท้องถิ่น โดยดีดพิณ เป่าแคน ตีฉิ่งฉับ เพื่อเริ่มพิธีกรรม จากนั้นคณะหมอเหยาได้เชิญผีไท้ ผีบรรพบุรุษ เข้าเทียมร่างของแต่ละคน เพื่อให้เป็นร่างทรง ในการประกอบพิธีกรรม ด้วยการกินเครื่องเซ่นไหว้จำพวกมัน เผือก ฟักทอง ข้าวต้ม เหล้าพื้นบ้าน เป็นต้น ระหว่างพิธีกรรมคณะหมอเหยาได้พูดคุยกันในภาษาที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจความหมายได้ ซึ่งเป็นภาษาของผีที่ใช้สื่อสารกัน บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน ตามจังหวะดนตรี มีการกระโดดโลดเต้น พร้อมถืออาวุธจำพวก มีด ธนู ที่ทำจากไม้ไผ่ เดินรอบสถานที่ตั้งเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อเชิญผีไท้ ผีบรรพบุรุษให้ลงมารับเครื่องเซ่นไหว้
โดยพิธีกรรมการเหยาในวันนี้ ยังจัดขึ้นเพื่อต้อนรับหมอเหยาคนใหม่ ให้มาทำหน้าที่สืบต่อตำนานพิธีกรรมโบราณประจำชนเผ่าผู้ไท หลังจากมีอาการเจ็บป่วยโดยไม่รู้สาเหตุ การแพทย์ในแผนปัจจุบันไม่สามารถระบุถึงอาการเจ็บป่วยได้ จากนั้นได้ทำพิธีรักษาด้วยการเหยาตามความเชื่อของคนผู้ไท หลังจากเหยาแล้วอาการเจ็บป่วยดีขึ้นและหายจากการป่วยตามลำดับ โดยได้รับคำชี้แนะจากหมอเหยาว่า มีผีไท้ ผีบรรพบุรุษติดตัวมาตั้งแต่เกิด ต้องทำหน้าที่เป็นหมอเหยา เป็นคนทรง รับเป็นร่างทรงของผีไท้ผีบรรพบุรุษต่อไป
ทั้งนี้ นายสมพงษ์ ผิวละมุล รับราชการครูโรงเรียนบ้านคำดู่ ต.บ้านแก้ง อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร อยู่ที่ ม.4 บ.กกตาล ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พิธีกรรมวันนี้เรียกว่า การเหยา ซึ่งถือว่าเป็นการรักษาอาการเจ็บป่วย เป็นอีกพิธีกรรมหนึ่งที่ทำการบูชาผีบรรพบุรุษหรือเลี้ยงผีตามความเชื่อของคนผู้ไท ในโอกาสเดียวกันนี้ ยังจัดขึ้นเพื่อต้อนรับสมาชิกที่มาทำหน้าที่ในการเหยาเลี้ยงผีคนใหม่ หลังจากมีอาการเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และหายจากอาการเจ็บป่วย หลังจากทำการรักษาจากหมอเหยา โดยการแพทย์แผนใหม่ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ ทำให้อาการเจ็บป่วยไม่ทุเลาลงจนหมดหนทางการรักษา
จากนั้นได้ทำพิธีเสี่ยงทายด้วยการเหยาตามความเชื่อ หมอเหยาได้บอกว่าคนนี้มีผีไท้หรือมีผีประจำตัวมาตั้งแต่เกิด ผีไท้ต้องการให้คนนี้มาทำหน้าที่เป็นร่างทรง การเหยาจึงเป็นการรักษาอีกแบบหนึ่งที่ไม่ใช่การรักษาทางด้านจิตใจ หรือดนตรีบำบัดที่หลายท่านมีความเข้าใจ แต่เป็นพิธีกรรมที่ไม่เกี่ยวกับโรคภัยหรืออาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด เป็นการเจ็บป่วยที่ไม่สบายตัวโดยไม่รู้สาเหตุ
ดังนั้นเพื่อความสบายของผู้ที่เจ็บป่วยเองจึงได้มีพิธีการเหยาเกิดขึ้น โดยชาวผู้ไทจะมีความเชื่อเรื่องของผี ไม่ว่าจะเป็นผีไร่ ผีนา ผีบรรพบุรุษ ผีตาแฮก โดยส่วนตัวแล้วผู้ที่ทำหน้าที่เหยาใช่ว่าจะมีใครจะเป็นเลยไม่ได้ ต้องเกิดจากพรหมลิขิตมาแล้วเท่านั้น
พร้อมกันนี้ นายสมพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะฝากถึงลูกหลานของชาวผู้ไทที่บรรพบุรษได้สั่งสมวัฒนธรรมประเพณีความเชื่อมาแล้ว อยากให้มีการสืบสานต่อไป ไม่อยากให้เลือนลางให้ไปตามกาลเวลาและยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อยากให้พิธีกรรมความเชื่อนี้ให้เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์สืบทอดต่อไป ไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาการไปเท่าใดอยากให้ทุกคนตระหนักไว้ว่า สิ่งที่บรรพบุรุษสั่งสมมานี้มีคุณค่า มีคุณงามความดี ที่ปลูกฝังเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี ที่เป็นวัฒนธรรมทางความเชื่อ ในเรื่องความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษอีกด้วย