การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลคาราบาวคัพหรือ ลีกคัพ 2023/24 คืนวันอาทิตย์นี้ เวลา22.00 น. "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แชมป์ 9 สมัยสูงสุดของรายการนี้ ดวลกับ "สิงห์บลูส์" เชลซีแชมป์ 5 สมัย ที่สนามเวมบลีย์ สเตเดี้ยม

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

01/02/24 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 4-1

13/08/23 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1

05/04/23 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0

21/01/23 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 0-0

14/05/22 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 0-0 / (กลาง) เอฟเอ คัพ

28/02/22 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 / (กลาง) ลีก คัพ

03/01/22 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2

29/08/21 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1

05/03/21 ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 0-1

20/09/20 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้

เชลซี

24/01/24 ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 6-1 (เหย้า)

10/01/24 แพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ 0-1 (เยือน)

20/12/23 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า) / ชนะจุดโทษ 4-2

02/11/23 ชนะ แบล็คเบิร์น 2-0 (เหย้า)

28/09/23 ชนะ ไบรท์ตัน 1-0 (เหย้า)

ลิเวอร์พูล

25/01/24 เสมอ ฟูแล่ม 1-1 (เยือน)

11/01/24 ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เหย้า)

21/12/23 ชนะ เวสต์แฮม 5-1 (เหย้า)

02/11/23 ชนะ บอร์นมัธ 2-1 (เยือน)

28/09/23 ชนะ เลสเตอร์ 3-1 (เหย้า)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เชลซี

18/02/24 เสมอ แมนฯซิตี้ 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

13/02/24 ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

08/02/24 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ

04/02/24 แพ้ วูล์ฟส์ 2-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

01/02/24 แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล

22/02/24 ชนะ ลูตัน 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

17/02/24 ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 4-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

10/02/24 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

05/02/24 แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

01/02/24 ชนะ เชลซี 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

 

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

เชลซี

เชลซี ของกุนซือ เมาริซิโอ้ โปเช็ตติโน่ เพิ่งจะบุกเจ๊า แมนฯซิตี้ 1-1 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นัดนี้จะไม่มีชื่อ โรเมโอ ลาเวีย, เลสลี่ย์ อูโกชุควู, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, รีซ เจมส์, เบอนัวต์ บาดิอาชิเล่ กับ มาร์ก กูกูเรญ่า เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนได้แน่นอน คาดว่า โปเช็ตติโน่ เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี นิโคลัส แจ็คสัน ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ โคล พัลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังตามสูตร

คาด11ตัวผู้เล่น

เชลซี (4-2-3-1) : ยอร์เย่ เปโตรวิช - มาโล กุสโต้, อั๊กเซล ดิซาซี่, เลวี่ โคลวิลล์, เบ็น ชิลเวลล์ - มอยเซส ไซเซโด้, เอนโซ่ เฟร์นานเดซ - โคล พัลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - นิโคลัส แจ็คสัน

ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังทุบ ลูตัน 4-1 ในลีกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมนี้ต้องรอเช็คฟิตผู้เล่นหลักบางตำแหน่ง แต่ที่่แน่ๆ ดิโอโก้ โชต้า, สเตฟาน บายเซติช, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, เคอร์ติส โจนส์, โฌแอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ อลิสซง เบ็คเกอร์ คือเหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถช่วยทีมได้ทั้งหมด คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ กับ หลุยส์ ดิอาซ ผนึกกำลังกันล่าตาข่ายในแดนหน้าตามระเบียบ

คาด11ตัวผู้เล่น

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีมิน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอนโด, ไรอัน กราเวนเบิร์ช - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

วิเคราะห์

งานนี้ขอชี้ชัดว่า ลิเวอร์พูล ยังเหนือกว่าและมีโอกาสเก็บชัยใน 90 นาทีได้ไม่ยากเย็น เพราะพวกเขากำลังฮึกเหิมอัดคู่แข่งไม่ยั้ง แม้ผู้เล่นตัวหลักจะบาดเจ็บหลายคน ด้วยการคว้าชัย 5 จาก 6 หนท้ายทุกรายการ (แพ้ 1) และผลิตสกอร์มากมายก่ายกองร่วมๆ 21 ประตูเลยทีเดียว ส่วน เชลซี ที่เพิ่งจะกรำศึกหนักก่อนจบเจ๊า แมนฯซิตี้ 1-1 อย่างไรก็ดีผู้เล่นในตำแหน่งเกมรับหลายรายก็กำลังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนเช่นกัน ฉะนั้นการป้องกันหลังบ้านก็เป็นโจทย์ยากที่พวกเขาต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งตลอด 5 เกมท้ายทุกเวที โดนถลุงตาข่ายไป 11 ตุง แถมหนึ่งในนั้นก็พ่ายยับให้กับ "หงส์แดง" 1-4 ที่แอนฟิลด์อีกด้วย หากเทียบมาตรฐานนักเตะกับฟอร์มการเล่นกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ยังยกให้จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกภาษีดีกว่าอยู่ดี ฟันธง! จัดไป  "ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1"  

 

 

#คาราบาวคัพ #ลิเวอร์พูล #เชลซี