วันที่ 23 ก.พ. 67 นายนฤชา  โฆษาศิวิไลซ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงาน “วันสหกรณ์แห่งชาติ” กล่าวคำสดุดีพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย และวางพานพุ่มถวายสักการะพระรูปพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์  พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณแก่สหกรณ์ดีเด่น ระดับจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยมีนางวิไล ยูฮันเซ่น สหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์  พร้อมด้วยสมาชิกสหกรณ์  กลุ่มเกษตรกร และส่วนราชการ ในจังหวัดบุรีรัมย์  เข้าร่วม วางพานพุ่มถวายสักการะพระบิดาแห่งสหกรณ์ไทย ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์  ต.ในเมือง อ.เมือง  จ.บุรีรัมย์  

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระกรุณาคุณของพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทยและเผยแพร่ขบวนการสหกรณ์ อันนำมาซึ่งความรู้รักสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียวของขบวนการสหกรณ์ไทย  ให้ประชาชนได้นำหลักการและวิธีการสหกรณ์ไปใช้ในการดำรงชีวิตเพื่อความอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีของขบวนการสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์ และแสดงการรวมพลังความสามัคคี ความพร้อมเพรียงในขบวนการสหกรณ์

ซึ่งภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย พิธีทำบุญทางศาสนา การวางพานพุ่มดอกไม้สดสักการะแด่พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย  การมอบประกาศเกียรติคุณสหกรณ์ดีเด่น ระดับจังหวัด จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูบุรีรัมย์ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ จำกัด และสหกรณ์การเกษตรเมืองบุรีรัมย์ จำกัด และมอบเกียรติบัตรรางวัลต่างๆ จำนวน 7 รางวัล รวม 40 สหกรณ์  พร้อมทั้งได้มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร  และกิจกรรมรับบริจาคโลหิต  นอกจากนี้ ภายในงาน ยังได้มีการจัดแสดงจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มอาชีพในจังหวัดบุรีรัมย์ อีกด้วย               

 

ด้านนางวิไล ยูฮันเซ่น สหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์  ขบวนการสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติจังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี 2567 ขึ้น เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ ของพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย และเพื่อเป็นการเผยแพร่ระบบสหกรณ์ให้แพร่หลาย 

ในปัจจุบันขบวนการสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์ มีจำนวนทั้งสิ้น 218 แห่ง สมาชิก 247,589 คน ซึ่งมีธุรกิจหลักๆ ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ให้บริการสมาชิก ประกอบด้วย สินเชื่อ 27,091 ล้านบาท ธุรกิจรวบรวมผลผลิต 3,128 ล้านบาท ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย 1,107 ล้านบาท ธุรกิจแปรรูป 1,037 ล้านบาท ธุรกิจรับฝากเงินจากสมาชิก 7,975 ล้านบาท และธุรกิจอื่นๆ  1,154 ล้านบาท  

ซึ่งการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ในรอบปีที่ผ่านมา ภาพรวมถือว่า สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สามารถให้บริการ และเป็นที่พึ่งของสมาชิกในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสังคมได้ในระดับหนึ่ง เป็นที่น่าพอใจ