หมายเหตุ : “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล”  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ด้านงานความมั่นคง) ให้สัมภาษณ์รายการ "สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์" ทางช่องยูทูป SiamrathOnline ออกอากาศเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ต่อกรณีสมาชิกกลุ่มทะลุวัง คุกคามขบวนเสด็จฯ ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การดำเนินคดีตามความผิดทางอาญานั้นจะมีผู้เกี่ยวข้องหรือขบวนการทางการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นอกจากนี้ยังได้ประเมินการชุมนุมฝ่ายต่อต้าน การพักโทษ ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จะสามารถยกระดับความรุนแรง ได้หรือไม่ และอย่างไร

-ประเมินสถานการณ์หลังจากมีการจับกุมตัวผู้ขัดขวางขบวนเสด็จฯ และสถานการณ์ความมั่นคงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร

จากกรณี"ตะวัน ทะลุวัง" เข้าไปหยุดขบวนเสด็จฯ กรมสมเด็จพระเทพฯ ผมได้พิจารณาแล้ว จึงมีบันทึกสั่งการไปยังตำรวจนครบาลให้ดำเนินคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 ฐานยุยงปลุกปั่น ซึ่งหลังจากมีการขออำนาจต่อศาลให้มีการออกหมายจับเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางศาลอาญาอนุมัติหมายจับและทำการจับกุมตัวไปส่วนหนึ่งแล้ว วันนี้ได้ทราบหลังจากมีการนำตัวไปฝากขังและศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งการที่ผมมีหนังสือสั่งการในลักษณะเช่นนั้น ต้องบอกว่าในวันนี้เข้าใจได้ว่าเด็กรุ่นนี้มีกระแสเชียร์ในสื่อโซเชียลมากมาย แต่หลักการทำงานข้าราชการของรัฐเราจะไปดูโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และกลัวว่าหากเราไปจับทัวร์จะลง ผมบอกลูกน้องไปว่าวันนี้บ้านเมืองจะเดินไปได้ต้องยึดหลักกฎหมายเดียวกัน แต่คนที่จะทำให้มีหลักกฎหมายเดียวกันได้คือตำรวจ เพราะตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย เพราะฉะนั้นตำรวจต้องเป็นผู้ชี้ว่าสิ่งไหนผิดเรื่องอะไรและสิ่งไหนถูกเรื่องอะไร ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะไม่มีกติกา ไม่มีขื่อไม่มีแป เมื่อพิจารณาหลักกฎหมายแล้ว เมื่อเข้าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จึงได้มีหนังสือสั่งการกำชับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลไปดำเนินการ

หากถามว่าวันต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น อันดับแรก มองว่าถ้าเราไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เมื่อถึงเวลาที่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเด็ดขาด เราก็ต้องทำเพราะไม่เช่นนั้นเมื่อไม่พอใจอะไรก็ต้องไปบีบแตร ต่อไปจะเป็นการไปคุกคามขบวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขบวนเสด็จฯก็อาจจะมีการกระทำเช่นนี้ หรือไม่พอใจรัฐมนตรีกระทรวงไหนก็ไปบีบแตร  ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีก็ไปบีบแตร ดังนั้นเรื่องเหล่านี้หลักกฎหมายไทย บ้านเมืองเราถูกปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย หากไม่พอใจต้องไปว่ากันในสภา แต่ไม่ใช่การทำแบบไม่มีขื่อไม่มีแปเช่นนี้ และยิ่งการคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งคนไทยทั้งประเทศไม่มีใครเขารับได้ ที่ให้กำชับคือมาตรการมีแผนอยู่แล้ว การรักษาความปลอดภัยคือส่วนสำคัญ แต่ตำรวจต้องไม่หย่อนยานและต้องเข้มงวดมากขึ้น และเมื่อพบเหตุการณ์ซึ่งหน้าดังกล่าวตำรวจต้องกล้าบังคับใช้กฎหมาย

ในวันนี้ก็ได้กำชับแนวทางการปฏิบัติไปแล้วว่า วันนี้ทุกพื้นที่ต้องเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ทั้งโลก ทั้งในประเทศที่มีการปกครองแบบประธานาธิบดี หรือรูปแบบของพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ก็มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกัน วันนี้ก็ต้องเข้าใจว่าบ้านเมืองเราในวันนี้ ในหลวงรัชกาลปัจจุบันรวมถึงองค์พระราชินีและสถาบันพระมหากษัตริย์ ท่านก็ได้เน้นย้ำว่ากรณีการเสด็จพระราชดำเนินต่าง ๆ จะไม่ให้กระทบต่อประชาชน

เพราะฉะนั้นวันนี้สังเกตได้ว่าเมื่อขบวนเสด็จ ก็ยังให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ เช่นเดียวกันกับกรมสมเด็จพระเทพฯ ท่านใช้พื้นผิวการจราจรร่วมกับประชาชน แต่ถึงแม้ว่าจะมีการวางกรวยยางจริง แต่ประชาชนก็ยังสามารถสัญจรผ่านไปได้ อีกเรื่องเวลาที่ท่านใช้เสด็จฯเป็นเวลาเล็กน้อยเพียงแค่ 31 วินาที ในการผ่านจุดดังกล่าวซึ่งถือว่าน้อยมาก  เพราะฉะนั้นการจงใจไปบีบแตรหากทำอีกก็จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดอีก ดังนั้นวันนี้การบังคับกฎหมายอย่างชัดเจน ผมก็เชื่อมั่นว่า การกระทำแบบนี้ก็คงจะไม่มีใครกล้ากระทำอีกแล้ว

อีกส่วนหนึ่งที่เรากำลังดำเนินการคือการสืบสวนหาตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ใครเป็นผู้แนะนำใครเป็นผู้สนับสนุน หรือมีผู้ใหญ่คนไหนช่วยเหลือเรื่องการเงินอยู่ วันนี้ประเทศจะอยู่ได้ก็ต้องมีกฎหมายเป็นหลัก ทุกคนต้องถือหลักกฎหมายเดียวกันและผู้ที่จะทำให้ทุกคนเข้าสู่หลักกฎหมายเดียวกันคือตำรวจ ผมเชื่อมั่นว่าหลังจากวันนี้ไปจากการบังคับใช้กฎหมาย การจับกุมที่ผ่านมา การวางมาตรการรองรับและการเข้มงวด จริง ๆ แล้วเรื่องกฎหมายไม่ต้องมีการแก้กฎหมายใหม่เพราะมาตรการหรือพ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย มาตรการในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญเรามีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตำรวจต้องไม่หย่อนยาน

-กรณีการประชุมสภาฯ มีการเอ่ยอ้างถึงบุคคลซึ่งเป็นผู้ช่วยสส. มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว จากการสืบสวนสอบสวนนำไปสู่ถึงต้นตอหรือไม่และสามารถเปิดเผยได้หรือไม่

ในฐานะที่ผมกำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวนมาก่อนหน้านี้ ข้อมูลเหล่านี้เราก็มีอยู่มากพอสมควร แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานที่เพียงพอที่จะออกหมายจับได้ เราทราบว่ามีใครสนับสนุนและมีใครเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินก็มีทั้งในประเทศและนอกประเทศ แต่เรายังไม่มีพยานหลักฐานเราก็ต้องเฝ้าติดตาม แต่ถ้าเมื่อไรที่ท่านก้าวข้ามเส้นของการสนับสนุนมา เราก็สามารถขออำนาจต่อศาลออกหมายจับ เช่นเดียวกับการที่เราจับกุมตะวัน ทะลุวัง ในกฎหมายประมวลอาญา ม.116 ได้ทันที ในวันนี้บ้านเมืองเรายึดหลักประชาธิปไตย ยึดหลักเสรีสิทธิมนุษยชน ดังนั้นการจะทำอะไรก็ตามจะต้องอยู่ภายใต้หลักกฎหมายเดียวกันไม่ทำตามใจตนเอง คำว่าประชาธิปไตยไม่ได้หมายความว่าพวกมากลากไป แต่จะต้องยึดอยู่บนหลักของกฎหมาย และต้องเข้าใจว่าบ้านเมืองเราอยู่มาถึงทุกวันนี้ ก็มีอยู่ 3 สถาบัน 1.สถาบันพระมหากษัตริย์ 2.สถาบันชาติ 3.สถาบันศาสนา แน่นอนว่าทุกประเทศไม่เหมือนกัน แต่ละประเทศมีเอกราชของตนเอง เพราะฉะนั้นต้องดูประวัติศาสตร์ที่มาของแต่ละประเทศว่า ประวัติศาสตร์ของเขาเป็นมาอย่างไรและคนรุ่นก่อนต้องมาสอนคนรุ่นหลัง ผมเองก็บอกนักเรียนนายร้อยต่าง ๆ ว่าเรามาถึงทุกวันนี้ได้เพราะอะไร เพราะฉะนั้นเราจะไปดูประวัติศาสตร์ประเทศอื่น และนำมาใช้กับประเทศไทยไม่ได้ เพียงแต่ว่าการลอกเลียนแบบสามารถทำได้ แต่ต้องนำมาปรับใช้กับประเทศของตนเอง

ในฐานะที่ผมทำหน้าที่ตรงนี้ ยังมองว่าน้อง ๆ เยาวชนก็คือกำลังของชาติในวันข้างหน้า หากใครก็ตามที่นำเขามาเป็นเครื่องมือ ใช้ทำลาย คุกคามบุคคลสำคัญสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นนี้ควรหยุดการกระทำ ถ้าไม่หยุดและเรามีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงได้ก็จะดำเนินการจับกุมทันที และในฐานะที่ผมกำกับดูแลความมั่นคง ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

-พฤติการณ์ของคนกลุ่มนี้คือการอาฆาตมาดร้าย แต่ตำรวจกลับออกหมายแค่ม.116

สาเหตุที่เราไปไม่ถึงม.112 เพราะประมวลกฎหมายอาญาม.112 คุ้มครองอยู่ 4 สถานะ คือ 1.พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระประมุขของประเทศไทย 2.พระราชินี 3.ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ 4.องค์รัชทายาท ดังนั้นม.112 ไม่คุ้มครองถึงกรมสมเด็จพระเทพฯ เพราะฉะนั้นเมื่อไม่ได้คุ้มครอง ผมก็ต้องมาดูพฤติการณ์อีกครั้ง หากถามว่าทำไมถึงเข้าข่ายม.116 ซึ่งม.116 ระบุไว้ชัดเจนว่า การกระทำใด ๆ ก็ตามที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำเพื่อทำให้คนอื่นเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ และเป็นการยุยงส่งเสริม ให้คนอื่นทำตาม เพราะตัวเองบีบแตรและนำไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียเพื่อให้คนอื่นทำเยี่ยงอย่าง

เพราะฉะนั้นพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะเข้าข่ายม.116 อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นความผิดที่มีอัตราโทษหนัก จำคุกไม่เกิน 7 ปี เรื่องนี้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่มีใครรับได้ และต้องเตือนน้อง ๆ หรือบุคคลที่ให้การสนับสนุนว่าในแง่มุมการเมืองหากทำแบบนี้ท่านอาจจะเจอแนวร่วมมุมกลับ จะทำให้สถานการณ์หนักมากขึ้นกว่าเดิม

-เฝ้าติดตามกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มทะลุวังอย่างไร

จะเห็นได้ว่าคนไทยทั้งประเทศลุกขึ้นมาใส่เสื้อสีม่วง และในฐานะที่ผมเป็นนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีการจัดให้แสดงพลังเพื่อถวายเป็นกำลังใจแด่พระองค์ท่าน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนเกือบพันคน สถานการณ์ในวันนี้ยังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น และยังไม่มีความขัดแย้งถึงขั้นใช้กำลัง เพราะผมมองว่าเมื่อเรามีการจับกุมบังคับใช้กฎหมายและคนไทยยอมรับ แต่การถวายกำลังใจสามารถทำได้ทั้งหมด ซึ่งท่านเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย

แน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น คนไทยทั้งประเทศก็ต้องลุกขึ้นมาถวายกำลังใจแด่พระองค์ท่าน ในส่วนของกรมสมเด็จพระเทพฯ เอง เมื่อเห็นคนไทยเป็นแบบนี้แล้วผมเชื่อมั่นว่าท่านเองก็ไม่อยากให้บ้านเมืองแบ่งฝ่ายและอยากให้บ้านเมืองเป็นปึกแผ่น ดังนั้นการที่ผมตัดสินใจบังคับใช้กฎหมายแบบนี้เพื่อให้กฎหมายเป็นหลักค้ำยันแก่สังคม ให้คนไทยมีที่เหนี่ยวรั้ง หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ออกมาบังคับใช้กฎหมาย กลัวโซเชียลมีเดีย กลัวโดนโจมตี ก็จะทำให้บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป

-กังวลหรือไม่ว่าประเด็นดังกล่าวจะทำให้เกิดน้ำผึ้งหยดเดียว

วันนี้ยืนยันว่ายังไม่มีอะไรรุนแรง และไม่มีอะไรที่เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เราควบคุมสถานการณ์อยู่ ไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นสำคัญ ที่จะออกมาชุมนุมต่อต้านใช้กำลัง วันนี้จะสังเกตได้ว่า ม็อบต่าง ๆ ที่อยู่ทำเนียบฯมีอยู่เพียง 3 ม็อบ เป็นม็อบเกี่ยวกับเรื่องปากท้องทั้งหมด ซึ่งพวกเขาเดือดร้อนจริง ๆ และไม่มีม็อบที่เกเรเลย

- จากกรณีการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร มีความเคลื่อนไหวที่น่าเป็นห่วงและอาจจะทำให้สถานการณ์บานปลายหรือไม่

ในฐานะที่รับผิดชอบงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ จากการติดตามข่าว พบว่าไม่มี อะไรรุนแรง เพราะ การออกจากโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.67 ที่ผ่านมา นายทักษิณ ออกตามกฎหมาย และไม่ได้ออกโดยใช้สิทธิพิเศษ เพราะฉะนั้นเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ผมดูจากรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการ เมื่อออกตามกระบวนการทางกฎหมาย ไม่ใช้เส้นทางลัดและวิธีพิเศษ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับได้

แต่แน่นอนว่าที่ทั้งคนเห็นและไม่เห็นด้วย ซึ่งมีอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยและมีจำนวนน้อย เดินทางมารพ.ตำรวจ แต่ไม่ได้มีประเด็นอะไร เป็นการถามเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางแพทย์ที่ต้องตอบคำถาม และเมื่อถามเสร็จแล้วพวกเขาก็กลับไปได้ด้วยดี

ในฐานะที่ผมรับผิดชอบเรื่องความมั่นคงทั้งหมด เรื่องม็อบต่าง ๆ วันนี้ก็ยืนยันว่าไม่มีม็อบอื่น ๆ ที่เข้ามาปั่นปวน ก่อเหตุรุนแรง โดยใช้ระเบิด อาวุธต่าง ๆ ม็อบรอบทำเนียบฯทุกวันนี้ ผมใช้การพูดคุยทั้งหมด เพราะเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาด้วยความเดือดร้อน เรื่องที่ดินทำกิน เมื่อม็อบที่มาจากความเดือดร้อน ผมต้องเป็นแกนกลางระหว่างรัฐบาลกับม็อบ ทำหน้าที่เชื่อมโยงและแก้ไขปัญหาให้เขาจากการถูกดำเนินคดีโดยไม่เป็นธรรม ถูกรังแก ถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการไม่ถูกต้อง หรือถูกกลุ่มนายทุนยืมมือเจ้าหน้าที่รัฐไปรังแกพวกเขาก็ต้องแก้ปัญหาให้เขา แต่ถ้าเป็นม็อบที่มาด้วยความเกเร มาทำลาย หรืออาศัยการเมืองนำ และใช้เครื่องมือต่าง ๆ เมื่อถึงเวลาบังคับใช้กฎหมายเราก็ต้องกล้าตัดสินใจในการบังคับใช้กฎหมาย จับกุมคุมขัง สอบสวนสืบสวน

- ให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนต่อเรื่องการเมืองในอนาคต

เรื่องกลับไปเหตุการณ์เหมือนวันที่ 6 ตุลาคม ผมยืนยันว่าไม่มี เพราะเรื่องวิสัยทัศน์ในวันนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และทุกอย่างเป็น Dynamic ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองอะไร หากทำไม่ดีหรือพูดว่าจะทำอย่างนั้น ก็ควรทำให้ได้ตามนั้น หรือฝ่ายค้านจะทำอะไรก็ควรทำให้ได้ตามนั้น

ในส่วนของหน่วยกำลัง ทั้งทหารและตำรวจ วันนี้ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ที่จะใช้กำลัง ทุกอย่างต้องอยู่ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ดังนั้นวันนี้สิ่งสำคัญคือการบังคับใช้กฎหมาย ตราบใดที่เราไม่กล้าบังคับใช้กฎหมาย สิ่งนั้นจะเป็นหนทางนำไปสู่เรื่องต่าง ๆ เราต้องแยกให้ออกว่าสิ่งไหนที่เป็น ม็อบการเมืองที่ไม่เดือดร้อน แต่มาเพื่อหวังผลทางการเมือง คุกคามสถาบันกษัตริย์ ทำลายสิ่งต่าง ๆ ดังนั้นเราต้องกล้าตัดสินใจ กล้าบังคับใช้กฎหมาย กล้าทำตามขั้นตอน

วันนี้ผมได้มีการทบทวนและปรับแผนที่เรียกว่าแผนกรกฎ โดยให้กำลังพลทั้งหมดทั่วประเทศทบทวนและเรียนรู้เรื่องพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ แต่พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ไม่ใช่ว่าจะใช้กำลังเมื่อไรก็ได้ เราต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นหลัก และการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ดังกล่าว ต้องขออนุมัติศาลต่าง ๆ หรือแผนกรกฎ เราต้องดำเนินการตามมาตรการขั้นตอน ไม่ดำเนินการตามใจ เช่น นำรถไปฉีดน้ำเขา

เพราะฉะนั้นเมื่อผมมากำกับเองต้องยึดจากกฎหมาย ไม่เช่นนั้นเมื่อเราจะไปจับใครเขาก็ไม่ยอมรับ เช่น ผมสั่งการให้จับตะวัน ทะลุวัง ตามกฎหมายประมวลอาญา ม.116 ก็ไม่มีใครโต้แย้งว่าผมสั่งโดยไม่ชอบ เพราะทุกคนยอมรับ แม้แต่ตัวเขาก็ได้ออกมาขอโทษและยอมรับว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด

เพราะฉะนั้นถ้าเราตัดสินใจบังคับใช้กฎหมาย ตัดสินใจลงมือแล้ว ทุกคนต้องยอมรับในหลักกฎหมายเดียวกัน เห็นหรือไม่ว่าบางครั้งเรานำรถแรงดันสูงไปฉีดน้ำ ก็มีผู้ออกมาร้องเรียนจำนวนมาก เราจึงต้องมาทบทวนรู้ว่าที่ทำไปเช่นนั้น เป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ ดังนั้นวันนี้ผู้บังคับบัญชาแบบผมก็ต้องลงไปในสนาม เหมือนผมไปดูม็อบต่าง ๆ เราจะต้องไม่ทิ้งให้ลูกน้องต้องโดดเดี่ยว ไม่ใช่ว่าเราได้รับมอบหมายและโยนภาระให้จ่า ดาบ นายร้อย น้อง ๆ เหล่านี้จะแก้ปัญหาได้อย่างไร

วันนี้เราเป็นคนดูแลเอง เราก็ต้องลงสนามเอง แก้ปัญหาให้ลูกน้องเอง และพูดคุยกับม็อบเอง แต่ถ้าเขายังไม่เข้าใจยังรั้นและปีนทำเนียบฯอยู่ กรณีนี้ก็อาจจะต้องจับกุม ซึ่งมีหลายวิธีการแต่สิ่งที่สำคัญคือผู้บังคับบัญชาต้องไม่ปล่อยให้ลูกน้องทำงานอย่างโดดเดี่ยว