“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้องเจอข่าวร้าย จะชวดใช้งานนักเตะในทีมชุดใหญ่ถึง 8 ราย หลังพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลคาราบาว คัพ 2023-24 กับ “เชลซี” ทีมร่วมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 25 ก.พ.นี้ ที่สนาม เวมบลีย์

ศึก "คาราบาว คัพ" ถือเป็นหนึ่งในรายการฟุตบอลถ้วยของลีกอาชีพประเทศอังกฤษ ที่กลายเป็นชื่อติดปากของคอฟุตบอลไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากเดิมมีชื่อว่า “ลีกคัพ” และเปลี่ยนชื่อไปหลาย ๆ ครั้งตามชื่อของสปอนเซอร์ ตลอดช่วงระยะเวลา 10-20 ปีที่ผ่านมา

ความพิเศษของถ้วย "คาราบาว คัพ"  นอกจากเป็นถ้วยฟุตบอลที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับ 3 ของประเทศอังกฤษแล้ว ยังเป็นถ้วยที่มีชื่อสปอนเซอร์จาก “ประเทศไทย” เป็นถ้วยแรกในโลกอีกด้วย

การแข่งขันของ "คาราบาว คัพ" ทีมฟุตบอลที่จะสามารถเข้าร่วมได้จะมีทั้งหมด 92 ทีม โดยมาจากพรีเมียร์ลีก 20 ทีม และจากลีกแชมเปียนชิพ ลีกวัน กับ ลีกทู อีก 72 ทีม ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักสามารถลงแข่งกับทีมใหญ่ ๆ ได้

การแข่งขันฟุตบอล "คาราบาว คัพ" จะแบ่งการแข่งขันด้วยกัน 7 รอบ โดยมีรายละเอียดดังนี้

รอบแรก : เป็นการแข่งขันของทีมสโมสรในอังกฤษทั้ง 72 ทีมจาก ลีกแชมป์เปียนชิพ ลีกวันและลีกทู มาแข่งขันกันโดยจะวัดผลแพ้ชนะในแมตช์นั้นเลยไม่มีนัดเหย้า-เยือน โดยเมื่อแข่งไปแล้ว 90 นาที และยังเสมอกันจะมีการต่อเวลาพิเศษให้อีกและถ้ายังไม่มีทีมไหนชนะ ก็จะทำการดวลจุดโทษ ซึ่งแตกต่างจากเอฟเอคัพคือต้องแข่งใหม่

รอบที่สอง : 12 ทีมจากพรีเมียร์ลีก ที่ไม่ได้แข่งยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก หรือยูฟ่ายูโรปาลีก ทำการลงแข่งกัน โดยกติกาเหมือนกับรอบแรกทุกอย่าง

รอบที่สาม : 8 ทีมที่ได้เข้าแข่งขัน ยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก หรือยูฟ่ายูโรปาลีก ทำการแข่งขันกัน ต้องยอมรับเลยนะครับว่าการจัดการแข่งใน 3 รอบแรกนั้นสมดุลอย่างมากที่ให้ทีมระดับเดียวกันได้แข่งกันก่อน

รอบที่สี่ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นการจับสลากทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 16 ทีมมาเจอกัน ทีนี้ก็ต้องวัดดวงกันแล้วว่าทีมไหนจะเจอทีมไหน ทีมใหญ่อาจเจอทีมเล็ก หรืออาจจะเป็นทีมใหญ่เจอกับทีมใหญ่ก็ได้

รอบที่ห้า : รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมที่ชนะในรอบ 16 ทีม นำมาจับสลากอีกครั้งแต่ทีนี้จะแบ่งเป็นสาย ๆ แล้วจะรู้ทันทีว่าเมื่อชนะแล้วจะไปเจอใครในแมตช์หน้า

รอบรองชนะเลิศ : โดยจะแข่งขันแบบสองนัดนั่นคือเหย้าและเยือน โดยจะแข่งขันแล้วนำประตูจากทั้ง 2 นัดมารวมกันถ้าทีมไหนได้มากกว่าก็เข้ารอบชิงชนะเลิศได้เลย

รอบชิงชนะเลิศ : การแข่งนัดเดียวแข่งขันที่ สนามเวมบลีย์ โดยถ้าเสมอจะทำการต่อเวลาและถ้ายังไม่มีผู้ชนะก็จะทำการดวลจุดโทษ

วันที่ 25 ก.พ.นี้ คงต้องลุ้นกัน ว่าใครจะเป็น “ทีมคว้าแชมป์” ได้ชูถ้วย “คาราบาว คัพ” ถึงแม้จะเป็นเพียงถ้วยรางวัลเล็กๆ แต่มันเป็น 'แชมป์แรก' ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ