"นายกฯ" แถลงวิสัยทัศน์ ประกาศยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ระบุ "ความขัดแย้ง-ปัญหาการเมือง" ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบดบังศักยภาพ บดบังแสงสว่างของประเทศไทย ลั่นวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวโลกรู้ว่า"แสงสว่าง"ในประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว

 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 22 ก.พ.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงวิสัยทัศน์ Thailand Vision "IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง" ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมรระดับโลก โดยมีคณะรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการร่วมในงานจำนวนมาก

 โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความขัดแย้ง ปัญหาการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บดบังศักยภาพ บดบังแสงสว่างของประเทศไทย ตั้งแต่ 6 เดือนที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ ความสงบ ความสมัครสมานสามัคคี ความร่วมใจกันของพวกเรา เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการที่เราจะเริ่มต้นให้ชาวโลกรู้ว่า แสงสว่างในประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว

 รัฐบาลตั้งเป้าประเทศไทยจะก้าวไปเป็นที่ 1 ของภูมิภาค ด้วยข้อได้เปรียบของประเทศไทย ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว ภูมิอากาศที่อบอุ่น ตลอดปีโครงสร้างที่พร้อมต่อยอด และที่สำคัญคือ ศักยภาพของคนไทย
 สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ ตำแหน่งของประเทศเราคืออำนาจต่อรองในเวทีโลก เราจะเป็นตัวกลางการค้าระหว่างโลกตะวันตกและตะวันออก สร้างโครงการสะพานเชื่อมอันดามัน-อ่าวไทย Landbridge ให้ทันกับปริมาณการค้าที่จะวิ่งผ่านภูมิภาคนี้ให้ได้ การลงทุน Megaproject นี้ จะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี สร้างงานในทุกภาคส่วน ก่อให้เกินการหมุนเวียนของเงินอย่างมหาศาล แต่เหนือสิ่งอื่นใดประชาชนในพื้นที่ต้องยอมรับ

 ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ (Medical Hub) เพราะระบบพยาบาลของประเทศไทยเรา เป็นจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งในปี 66 การท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์และสุขภาพสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยกว่า 4 หมื่นล้านบาท
 ไทยจึง มี 3 เหตุผลหลัก ที่ทำให้ประเทศเป็นเลิศทางการแพทย์สำหรับคนทั่วโลก 1.โรงพยาบาลที่ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติ โรงพยาบาลเอกชนทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด 2.บุคลากรทางการแพทย์ ทั้งหมอและพยาบาล ล้วนมีฝีมือเยี่ยม ประกอบกับไมตรีจิตของคนไทย สร้างความสบายกาย สบายใจให้กับผู้รับการรักษา และ3. ราคาเราสมเหตุสมผล ประเทศไทยค่ารักษาถือว่า "ถูก" เมื่อเทียบกับการไปหาหมอในหลายประเทศ

 เราสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ โดยช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์ โดยประสานให้โรงพยาบาลไทยรับประกันของต่างชาติได้ ทั้งประกันสังคม และประกันอื่น ๆ ที่จะทำให้เรามีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น ทำให้ต่างชาติเข้ามาในไทยแล้วเบิกประกันได้ รัฐบาลเองก็จะทำ Roadshow เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามารักษา นอกจากการแพทย์ ประเทศไทยก็มีชื่อเสียงด้านการดูแลสุขภาพ สปาไทย นวดแผนไทย แพทย์แผนไทย ก็ขึ้นชื่อในระดับ World Class ใน Los Angeles & San Francisco มีสมาคมนวดไทย ซึ่งมีรายได้สูงมาก เราจะผลักดันสปาไทย การแพทย์แผนไทย นวดแผนไทย สมุนไพร ให้เป็นสินค้าส่งออกไปทั่วโลก ด้วยมาตรการต่าง ๆ

 นอกจากมาตรการที่จะสร้างรายได้แล้ว คนไทยก็ต้องมีระบบรักษาพยาบาลที่ดี ประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ทั่วถึงและสมศักดิ์ศรีครับ ด้วย 30 บาทรักษาทุกที่ จาก 30 บาทรักษาทุกโรคที่ทั่วโลกรู้จัก และหลายประเทศใช้เป็นต้นแบบ เราได้เริ่มทำ 30 บาทรักษาทุกที่ นำร่องไปแล้ว 4 อีกไม่นานเพิ่มเป็น 12 และจะครบทุกจังหวัดในสิ้นปี เราจะใช้ระบบ AI เชื่อมฐานข้อมูล อัพเกรดระบบการแพทย์ ให้คนไทยที่ไปหาหมอต่อจากนี้ คนไข้อาจจะไม่รู้จักหมอ แต่หมอจะรู้จักคนไข้ จากข้อมูลการใช้บริการทางการแพทย์ตลอดชีวิต จากนี้พี่น้องจะไม่ต้องบอกประวัติใหม่ทุก ๆ ครั้งที่เจอ เราจะเพิ่มบุคคลากรทางการแพทย์และพยาบาลให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน พร้อมดูแลความเป็นอยู่ของแพทย์ พยาบาล ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แบ่งเบาภาระ ที่สำคัญป้องกันปัญหาสมองไหล
 ด้วยมาตรการทั้งหมดจะทำให้ไทยเป็น Medical Hub ของ Southeast Asia มีระบบพยาบาลชั้นเลิศสำหรับคนไทย ไม่ให้คนไทยมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และกลายเป็นจุดขายที่นำเงินเข้าประเทศไปพร้อมกัน