"ปธ.กมธ.ตำรวจ" ไล่บี้ "กรมราชทัณฑ์" ตอบข้อสงสัยกรณี "ทักษิณ" ไม่กักตัว-ไม่ตัดผม 2 มาตรฐานหรือไม่  ให้เวลา 90 วัน ตอบปมใช้เงิน "สปสช." รักษา”อดีตนายกฯ” หรือไม่ ซัด"เศรษฐา' ต้องบริหารประเทศให้มีความเสมอภาค "ก้าวไกล"ตั้งกระทู้ถามสดปมพักโทษอดีตนายกฯ-ชื่อหมอรับรองโรค  ขณะที่ "รมว.ยุติธรรม" เผยนักโทษช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้คะแนนสุขภาพต่ำกว่าเกณฑ์หลุดพักโทษเล็กน้อย

 เมื่อวันที่ 22 ก.พ.67 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ กล่าวถึงการดำเนินการของกมธ.เกี่ยวกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้พักโทษกลับมาอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว ว่า เราคงไม่พูดถึงอาการป่วยของนายทักษิณเพราะนายทักษิณเป็นผู้ที่ได้รับผล ได้กลับมาอยู่บ้านสู่อ้อมกอดครอบครัวแล้ว มันจบไปแล้ว แต่เรื่องทั้งหมดอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม และสิ่งที่เราต้องตามคือเอกสารจากกรมราชทัณฑ์ที่กมธ.ขอไปคือ 1.ระเบียบที่กรมราชทัณฑ์เคยชี้แจงด้วยวาจาว่าเงินที่รักษานายทักษิณเป็นเงินของสปสช. ถ้าเกินสิทธิ์สามารถใช้เงินส่วนตัวได้ ซึ่งกมธ.อยากทราบว่าข้อนี้มีระเบียบอะไรรองรับ 2.กระบวนการการเข้ารับโทษทั้งหมดของนายทักษิณตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่การกรอกประวัติ ไม่กักตัว ไม่ตัดผม กรมราชทัณฑ์ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าเพราะอะไรถึงไม่กระทำสิ่งเหล่านี้ เพราะวันนี้สังคมไม่ได้สงสัยนายทักษิณ แต่กำลังสงสัยกระบวนการที่เกิดขึ้นว่าถูกต้องหรือไม่ 2 มาตรฐานหรือไม่

 “เรามองย้อนกลับไปในอดีตว่าสังคมไทยไม่มีความเสมอภาค เคยเรียกร้องกันมานักหนา แต่วันนี้ถ้าเจอกับตัวเอง แล้ว 2 มาตรฐานผมคิดว่าสังคมไทยต้องมีมาตรฐานพอสมควร และถ้ากระบวนการทั้งหมดไม่ถูกต้องตามระเบียบ เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องชดใช้กรรมในอนาคต ผมขอเรียกร้องไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอให้ออกมาชี้แจงกับสังคมให้ชัด ท่านเป็นลูกผู้ชาย ท่านเป็นเลือดชาวใต้แบบผม สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ดังนั้น ถ้าท่านชี้แจงสิ่งที่สังคมกำลังเคลือบแคลนสงสัยอยู่ได้ 100% และสังคมเข้าใจได้ไม่มีข้อครหา ทุกคนก็จบ แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้ขอให้จำผมไว้เลยว่าท่านจะเป็นจำเลยจนสิ้นลมหายใจ” นายชัยชนะ กล่าว

 เมื่อถามว่า แสดงว่ากฎหมายกำลังไล่ล่าผู้ที่เกี่ยวข้องใช่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า เรามองว่ากฎหมายไล่ล่าไม่ได้ เพราะสังคมต้องการความเป็นจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราให้ความเป็นธรรมทุกคนอยู่แล้ว ไม่ใช่การไล่ล่า ถ้าสิ่งที่สังคมสงสัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตอบกับสังคมได้อย่างชัดเจน ก็จบ แต่ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตอบไม่ได้ก็ไม่จบ สมมติค่ารักษาพยาบาลของนายทักษิณ 180 วัน ให้ค่าห้องพักวันละ 1 หมื่นบาท เป็นจำนวน 1.8 ล้านบาท ค่าหมอ ค่ายา สมมติค่ารักษา 5 ล้านบาท อยากถามว่าสปสช.จ่ายให้ได้หรือไม่ 5 ล้านบาท ถ้าสปสช.บอกว่าจ่ายได้ทั้งหมด ก็จะได้บอกญาติผู้ต้องขังทุกคนว่าต่อไปคุณก็ได้รับสิทธิ์นี้เช่นกัน แต่ถ้าจ่ายไม่ได้ก็สามารถใช้เงินส่วนตัวของครอบครัวได้เช่นกัน ซึ่ง พ.ร.บ.ของกรมราชทัณฑ์มี 78 มาตรา โดยมาตรา 13-17 เขียนชัดเจนว่าผู้ต้องขังมีสิทธิได้รับการศึกษาในวันที่ถูกจองจำ โดยการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยกรมราชทัณฑ์จะเป้นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ แต่หากศึกษาสูงกว่าขึ้นพื้นฐาน ผู้ต้องขังสามารถใช้เงินส่วนตัวได้ ดังนั้น สิ่งที่กรมราชทัณฑ์ต้องชี้แจงสิทธิที่ผู้ต้องขังสามารถใช้เงินสปสช.ได้ อยู่ในมาตราไหนใน 78 มาตรา หากกรมราชทัณฑ์ชี้แจงได้ก็จบ ซึ่งที่ผ่านมาทาง กมธ.ทำเรื่องสอบถามไป 2 ฉบับแล้ว ถ้าฉบับที่ 2 ยังไม่ตอบกลับมาภายใน 90 วัน ต้องดูข้อกฎหมายว่าทำอะไรได้ต่อไป

 วันเดียวกัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาถาม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เรื่องหลักเกณฑ์พักโทษให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

 โดย นายณัฐชา กล่าวว่า ในการพิจารณาพักโทษนายทักษิณเข้าเกณฑ์พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ กฎกระทรวง และประกาศกรมราชทัณฑ์อย่างไร ตามประกาศของกรมราชทัณฑ์ หลักแห่งการพักโทษ คือ 1.ป่วยซึ่งต้องเป็นโรคที่กำหนดไว้ 7 ข้อ อาทิ โรงร้ายแรงที่รักษาไม่หายขาด ไตวายระยะสุดท้าย(ต้องฟอกไต) มะเร็งระยะสุดท้าย สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ เป็นต้น มีโอกาสเสียชีวิตหากอยู่ในเรือนจำต่อ หรือ 2.ชราภาพ อายุเกิน 70 ปี แต่จะต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วย โดยเกณฑ์ทั้งหมดที่ใช้วัดในแบบทดสอบมี 10 ข้อ ต้องได้คะแนนไม่เกิน 11 คะแนน ประกอบด้วย กินอาหารด้วยตนเองไม่ได้ ใช้ห้องน้ำด้วยตนเองไม่ได้ ชำระร่างกายด้วยตนเองไม่ได้ สวมเสื้อผ้าด้วยตนเองไม่ได้ เดินไปมาภายในบ้านไม่ได้ ลุกจากเตียงไปนั่งเก้าอี้ไม่ได้ ขึ้นบันไดด้วยตนเองไม่ได้ อาบน้ำด้วยตนเองไม่ได้ กลั้นอุจจาระไม่ได้ และกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ถามว่านายทักษิณช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างไร

 นอกจากนี้ นายณัฐชา ถามเพิ่มเติมว่า แพทย์ที่ให้การรับรองนายทักษิณ 2 คน คือใคร และประเมินอาการป่วยกี่ครั้ง เพราะถือเป็นหมอเทวดารับรองให้นายทักษิณป่วยอยู่ในระยะร้ายแรง แต่หายได้ภายใน 180 วัน
 
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า เรื่องการพักโทษมีกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 52 ข้อ7 และในกฎกระทรวงแบ่งการพักโทษเป็น 2 อย่าง คือ พักโทษทั่วไป กับพักโทษเนื่องจากมีเหตุพิเศษ โดยเริ่มจากการเป็นความเห็นของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จากนั้นส่งไปให้คณะอนุกรรมการ 19 คน พิจารณาให้ความเห็นชอบ และส่งมาที่ รมว.ยุติธรรมพิจารณาอีกครั้ง โดยในครั้งที่ผ่านมามีการพิจารณา 945 คน ไม่ให้ผ่าน 15 คน ดังนั้นมีผู้ได้พักโทษ 930 คน ซึ่งทั้งหมดพิจารณาจากหลักฐานทางการแพทย์ทั้งสิ้น ทั้งนี้ การพักโทษมีมาตั้งแต่ปี 2546 ยอดรวมถึงปัจจุบันมีผู้ได้รับการพักโทษแล้ว 2,420 คน

 “กรณีนี้(ทักษิณ) อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์เลข 11 เล็กน้อย ผมรู้สึกกังวล เพราะ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ ห้ามเปิดเผยข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล หรือจะใช้อำนาจหรือสิทธิ์เพื่อขอเอกสารสุขภาพของบุคคลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หมอที่วินิจฉัยเป็นคณะแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ยืนยันการพักโทษเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ทางการแพทย์ชอบธรรมด้วยเหตุผลและคุณธรรม” รมว.ยุติธรรม กล่าว