วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ ณ ศูนย์ปฏิบัติการดำเนินงานชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในตำบล แพร่ระบาดยาเสพติดสูงสุด 100 ตำบล ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการฯ และได้พบปะให้กำลังใจผู้เสพจากการค้นหาในโครงการฯ นี้ จำนวน 280 คน เน้นย้ำให้ชุมชนต้องร่วมกันต่อสู้ พร้อมทั้งชักชวนผู้เสพให้สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” 

ซึ่งการตรวจเยี่ยมให่กำลังใจในครั้งนี้มีนายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย หน่วยงานราชการร่วมให้การต้อนรับคณะที่เดินทางมาทำการตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกับผู้ที่เข้าร่วมการบำบัดยาเสพติดในครั้งนี้ อีกทั้ง พ.ต.อ.อาทิตย์ ฉัตรชัยรัตนเวช ผกก.สภ.อำเภอจัตุรัส ยังพาเดินตรวจเยี่ยมบูธกิจกรรมของกลุ่มผู้ที่กลับใจ ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มทำขนม กลุ่มขายน้ำหวาน และ กลุ่มซ่อมอุปกรณ์เครืองมือ 

จากนั้นได้เดินทางไปบ้านละหาน  ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เพื่อให้กำลังใจพร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้ยาเสพติดและครอบครัว จำนวน 1 ราย ซึ่งหลังจากที่ผ่านการรักษาและหายจากอาการป่วยก็พร้อมที่จะกลับตัวกลับใจมาช่วยเหลือสังคม อีกทั้งยังเป็นคนดีของสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนกับผู้ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง

โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า กำลังใจจากสังคมคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้เสพตัดสินใจเลิกยาเสพติด หากเขาเกิดความหวังหรือมีเป้าหมายในชีวิต เขาจะไม่อยากยุ่งกับสิ่งที่ไม่ดี ผมจึงมักย้ำถึงความสำคัญของชุมชน และทุกครั้งที่ลงชุมชนก็พยายามที่จะสื่อสารในเรื่องนี้ ยาเสพติดกลัวที่สุดคือสถาบันครอบครัวที่อบอุ่นและชุมชนที่เข้มแข็ง สภาพแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการไม่เกิดผู้เสพยาเสพติดรายใหม่ และสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกยาเสพติด ที่หากได้รับกำลังใจ ความเข้าใจ การให้อภัยเขาจะมีความหวังในการรักษาและการฟื้นตัวจากยาเสพติด

อีกทั้งยังพูดเกี่ยวกับการที่มีการพูดเกี่ยวกับกฏหมายระบุยาบ้า 5 เม็ด ต่อให้มี 2-3เม็ด หากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมยังไงก็ต้องส่งดำเนินคดีอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ว่าจะมีกี่เม็ด หากเจ้าหน้าที่จับกุมได้ สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ต้องถูกจับดำเนินคดี และ ถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ ก็ถือว่าเป็นนักโทษต่อไปอีกด้วย