ประจวบคีรีขันธ์  ทัพเรือไทย-สหรัฐ เริ่มปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย ร.ล.สุโขทัย ด้าน ผบ.ทร.เผย สิ่งแรกที่นำขึ้นจากท้องทะเลคือป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย ขณะที่เรือยังคงเหมือนเดิม ตั้งตรงเอียง 7 องศา จอดนิ่งใต้ทะเลลึก

วันที่ 22กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางมาโดยเฮลิคอปเตอร์ของราชนาวีไทย มายังเรือหลวงอ่างทอง 971 โดยมี พลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ตลอดจน นาวาเอก Hugh winkel ผู้ช่วยทูตทหารเรือสหรัฐ ประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับ

จากนั้น ผบ.ทร.และคณะ เดินทางไปยังเรือ Ocean valor  ของกองทัพเรือสหรัฐ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่เริ่มปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย เป็นวัยแรก ที่บริเวณจุดอับปาง กลางทะเลอ่าวไทย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากฝั่งประมาณ 40 กิโลเมตร ที่ระดับน้ำลึก 51-52 เมตร โดยคณะสื่อมวลชนที่ติดตามภารกิจ กองทัพเรือได้ใช้เรือหลวงมันในและ เรือ ต.998 พาคณะสื่อมวลชน มายังจุดเกิดเหตุ

สำหรับ เรือหลวงสุโขทัย เกิดอุบัติเหตุจากคลื่นลมในทะเลที่มีกำลังรุนแรง  ขณะเดินทางไปร่วมงานสักการะบวงสรวง พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ จ.ชุมพร ทำให้เรืออับปางกลางทะเล เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2565  เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้กำลังพลบนเรือจำนวน 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 24 นาย  และยังสูญหายอีก  5 นาย

สำหรับปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย ในครั้งนี้ ยังไม่ใช่การกู้เรือทั้งลำขึ้นมาจากน้ำ แต่จะเป็นการดำเนินการสำรวจหลักฐานใต้น้ำทั้งภายในและภายนอกตัวเรือเพื่อนำมาประกอบการสอบสวนข้อเท็จจริงของกองทัพเรือ 

นอกจากนั้น ยังมีภารกิจสำคัญคือ การค้นหาผู้สูญหาย อีก 5 คน ที่อาจติดอยู่ภายในตัวเรือ การทำให้ยุทโธปกรณ์และวัตถุอันตรายหมดความสามารถ รวมถึงการนำอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์บางอย่างขึ้นมาจากน้ำ เพื่อยืนยันสาเหตุในการจมของเรือและเป็นวัตถุพยานในการสอบสวนของกองทัพเรือ

พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า  สำหรับวันนี้เป็นวันแรกที่กองทัพเรือไทยและกองทัพสหรัฐ เริ่มภารกิจค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย และถือเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ทั้งนี้กองทัพเรือไทยต้องขอขอบคุณกองทัพเรือสหรัฐที่ช่วยเหลือในภารกิจ ขอบคุณนักประดาน้ำ กำลังพลเรือ Ocean valor ทุกนาย

สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ ตนได้ขึ้นเรือไปติดตามการปฎิบัติใกล้ชิดถึงได้เข้าใจความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ สำหรับ  Ocean valor เป็นเรือเปล่า อุปกรณ์ทัเงหมดสหรัฐนำขึ้นเครื่องบินมาจากฮาวาย และมาโหลดลงเรือที่สิงค์โปร์ ใช้เวลา 1-10 กุมภาพันธ์ ก่อนเดินทางมาช่วยภารกิจที่ประเทศไทย ตนรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

โดยภารกิจแรกเป็นการดำน้ำไดรน์แรก นักดำน้ำสหรัฐและไทยดำลงไปใต้น้ำ เพื่อสำรวจสภาพเรือหลวงสุโขทัยล่าสุด และสิ่งแรกที่จะนำขึ้นมา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจคือป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย โดยเจ้าหน้าที่กำลังใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กใต้น้ำตัดส่วนของป้ายชื่อออก และนำขึ้นมาในวันนี้

สำหรับภารกิจตั้งแต่วันนี้ ต่อเนื่องไปรวม 5 วัน จะเป็นการถ่ายรูปเรือทั้งหมดตลอดลำ และค้นหาผู้เสียชีวิต เพื่อนำมาประกอบสำนวนที่ได้สอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้แล้ว ว่าถูกต้องตรงกันหรือไป สำหรับวันที่ 6-19 จะเป็นการทำลายอาวุธที่เป็นอันตรายทั้งของสหรัฐและไทย และนำทุกอย่างที่ขึ้นได้กลับขึ้นมา และลำดับสุดท้ายคือการนำสิ่งที่จะเป็นความสำคัญทางจิตใจ ของใช้ต่าง ๆ  ทำเป็นอนุสรณ์สถานให้เรือหลวงสุโขทัย จะจบภารกิจทั้งหมด รวม 19 วัน

การปฎิบัติของกองทัพเรือจะตรงไปตรงมา รอหลักฐานจากปฏิบัติการครั้งนี้เพื่อนำมาสรุป และตนจะแถลงว่าสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ว่าเกิดจากอะไร ทุกอย่างจะต้องชัดเจน คำถามที่เกิดขึ้นจากการเกิดเหตุในครั้งนี้จะต้องได้รับการอธิบายทั้งหมด และอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เหน็ดเหนื่อยปฏิบัติภารกิจ โดยเฉพาะกองทัพเรือสหรัฐที่มาช่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งน่าจะใช้เงินจำนวนมาก ที่ผ่านมากองทัพเรือได้ดำเนินการเพื่อจะจัดจ้างกู้เรือหลวงสุโขทัย ถึง 2 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ ด้วยเหตุผลหลายประการ วันนี้ได้เห็นปฏิบัติการใกล้ชิด ถึงได้รู้ว่าการทำงานยาก และต้องใช้เครื่องมือจำนวนมาก โชคดีที่สหรัฐมาฝึกคอบร้าโกลด์ 2024 พอดี และทันกับการปฎิบัติการ ซึ่งการดำน้ำใช้อุปกรณ์พิเศษ และใช้กรงหย่อนนักประดาน้ำลงไปปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้เวลาลงและขึ้น ครั้งละประมาณ 10 นาที จะถึงพื้นที่เรือหลวงสุโขทัย และมีเวลาปฎิบัติงานประมาณ 40-45 นาที โดยใช้นักประดาน้ำไทย 35 นาย สหรัฐ 14 นาย