เด้งฟ้าผ่า “6 ส.ป.ก.” โคราช เซ่นหมุดนิรนาม ส่อรุกเขตอุทยานฯเขาใหญ่  “พัชรวาท-ธรรมนัส” ลุยถกข้อพิพาทหมุด“ส.ป.ก.” ได้ข้อสรุปเห็นพ้องหากติดกรมอุทยานฯ ไม่ควรจัดสรรประชาชน เสี่ยงก่อปัญหาในอนาคต เล็งวางกรอบ พร้อมรอกรมแผนที่ทหารชี้ขาด หากอยู่ในเขตกรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่“ส.ป.ก.” โดนแน่ ขณะที่”ปลัดทส.”โดดป้อง”ชัยวัฒน์”ถอดหมุดรุกเขตอุทยานฯ 

จากกรณีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สำรวจพื้นที่พบว่ามีหมุดของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร(ส.ป.ก.)รุกเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จำนวน 42 แปลง 2.9 พันไร่ โดยเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ และอยู่ระหว่างเตรียมออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ซึ่งมีการทับซ้อนกัน 3 หน่วยงาน ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติและส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาทางส.ป.ก.ได้มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ที่ กษ 1205/1074 ถึงผวจ.นครราชสีมา เรื่อง ขอให้เจ้าหน้าที่ยุติการปฏิบัติงานในพื้นที่ทับซ้อนป่าจำแนกฯ ป่าเขาใหญ่ 

ด้าน นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงฯได้มีคำสั่งย้ายด่วน ส.ป.ก.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา รวม 6 คน ไปประจำการที่สำนักงานส่วนกลาง เพื่อเปิดทางการสืบสวนข้อเท็จจริงประเด็นนี้ต่อไป
ที่ทำเนียบฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้หารือกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ถึงข้อพิพาทต่อการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ 

โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีปัญหาพิพาทจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีการทับซ้อนกัน 3 หน่วยงาน ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และ ส.ป.ก. โดยยืนยันว่าแต่ละหน่วยงานต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งทั้ง 2 กระทรวงต้องมาแก้ปัญหา ต้องยึดตามหลักกฎหมาย โดยกรมแผนที่ทหาร เป็นเจ้าภาพในการเดินหน้าแบ่งเขตแนวที่ดินของรัฐ หรือวันแมพ ข้อพิพาทเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าพื้นที่ข้อพิพาทอยู่ในเขตกรมอุทยาน หรือเขตปฏิรูปที่ดิน พร้อมทั้งนำภาพถ่ายทางอากาศมาประกอบโดยเฉพาะหลักสภาพความเป็นจริง เนื่องจากการจัดสรรที่ดินต้องมีกรอบและหลักการที่ชัดเจน ซึ่งพื้นที่ที่เป็นรอยต่อระหว่างกรมอุทยาน และ ส.ป.ก. หากจัดสรรให้กับชาวบ้าน ปัญหาความรับผิดชอบก็ไม่พ้นรัฐบาล เช่นกรณีสัตว์ป่าบุกรุกที่ทำกินของชาวบ้าน ซึ่งในความคิดของตน ไม่ควรจัดสรรพื้นที่แบบนี้ให้ชาวบ้าน และเสี่ยงที่ชาวบ้านจะรุกล้ำพื้นที่ของกรมอุทยาน 
“ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรการปฏิรูปที่ดิน จะตั้งกรอบออกเป็นแนวทางการจัดสรรที่ดิน โดยจะระบุเอาไว้ว่าพื้นที่ตรงไหนที่เป็นเขตรอยต่อกับกรมอุทยานฯ ห้ามนำมาจัดสรร ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาโดยยั่งยืน และจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี แต่ขณะนี้ทั้ง 2 กระทรวงเห็นตรงกัน รอกรมแผนที่ทหารชี้ขาด ซึ่งถ้าพิสูจน์ทราบว่าเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก.แล้ว จะทำเป็นป่าชุมชน ไม่จัดสรรให้ทำกิน”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า  กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการออก ส.ป.ก. โดย เลขา ส.ป.ก. ได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา เพื่อความสบายใจของคณะกรรมการสอบสวน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ยังไม่ได้ระบุความผิด แต่หากมีความผิดจริงก็ไม่ละเว้น เพราะถือว่าประพฤติชั่วร้ายแรง และเป็นความผิดอาญาตามมาตรา 157 รวมถึงวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก

ส่วนที่มีความพยายามโยงให้เป็นเรื่องการเมือง เป็นความขัดแย้งระหว่าง ร.อ.ธรรมนัสกับพล.ต.อ.พัชรวาทนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โทรมาหาตนแล้วให้ 2 กระทรวง ไปหารือกันถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ที่ผ่านมาก็มีการหารือกับพล.ต.อ.พัชรวาทมาโดยตลอด ยืนยันว่าไม่มีข้อพิพาทใดๆ 

“ผมกับพี่ป๊อดนับถือเหมือนพี่น้อง และเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือมาก และผมมีสัมมาคารวะ ส่วนจะแจ้งความนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรณีไปถอดหมุดหรือไม่นั้น ต้องรอกรมแผนที่ทหารชี้ขาดว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของหน่วยงานใด หากเป็นพื้นที่ของกรมอุทยาน เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. โดนแน่ ซึ่งโดยอำนาจหน้าที่ตอนนี้ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานในการเดินหน้าแนวเขตที่ดินของรัฐ หรือวันแมพ และมอบหมายให้กรมแผนที่ทหารซึ่งมีเครื่องมือ ทุกอย่างต้องฟังจากกรมแผนที่ทหาร”

ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีนายชัยวัฒน์ ถอดหมุดสามารถทำได้หรือไม่ว่า สิ่งใดก็ตามที่อยู่ในเขตอุทยาน หากเข้าไปบุกรุก สามารถดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นเหตุที่มีความละเอียดอ่อน โดยป่าสงวนจะเป็นไข่ขาว อุทยานคือไข่แดง แต่จะเข้าขอไปตรวจสอบในรายละเอียดหากนายชัยวัฒน์ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ยืนยันว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของนายชัยวัฒน์หากอยู่ในพื้นที่อุทยานก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ อีกทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นมรดกโลก จึงต้องไปพิสูจน์ทราบ ว่าการที่เจ้าหน้าที่ไปปักหมุดสามารถทำได้เลยหรือไม่ และต้องไปดูขั้นตอนของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จะต้องเข้ามาอย่างไร ต้องไปดูภาพรวมทั้งหมด รายการที่จะเข้าไปปักแนวเขตอะไรก็แล้วแต่ มีระเบียบรองรับอยู่แล้ว ว่าจะต้องมีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ขั้นตอนละเอียดอยู่ และเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานที่จะหาข้อยุติในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชัยวัฒน์มีการตั้งข้อสังเกตว่าการปักหมุดบริเวณดังกล่าว มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะทุกฝ่ายก็ทำตามกฎหมายของตัวเอง อยากให้รอคณะกรรมการเข้ามาดู ซึ่งเป็นเรื่องแนวเขตที่เราเห็นอยู่แล้วว่ามีปัญหา จึงจำเป็นต้องมีวันแมพขึ้นมา ในการแก้ไขแนวเขตที่ดินของรัฐ ถ้านำที่ดินของรัฐในส่วนของราชการมาดู เป็นที่ดินเกินครึ่งหนึ่งของประเทศไทย ทุกฝ่ายมีมาตรฐานที่แตกต่างกันไป ที่เราเรียกว่าโฉนดที่ดิน 1 : 4000 ก็สามารถนำมาเทียบเคียงกันได้หมด และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเรื่องการเมืองมาอยู่เบื้องหลัง ส่วนจะมีใบสั่งให้ไปปักหมุดจุดนั้นหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะทั้ง 2 หน่วยงานยืนยันแผนที่ของตัวเอง ก็ต้องนำมาตรวจสอบ อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ถูก

เมื่อถามว่า พื้นที่ที่ปักหมุดจะเตรียมแบ่งไว้ให้ประชาชนทำกินหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ แต่ยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เมื่อถามว่า คาดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมอุทยานหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ยืนยันว่ามีพระราชกฤษฎีกาแนวเขตอยู่ เป็นข้อกฎหมาย