วันที่ 20 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า  จากกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ และ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เปิดรับสมัครนายกเทศมนตรีเมือง(นายก ทม.)บุรีรัมย์  กรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ โดยการเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-2 ก.พ.67 และจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 17 มี.ค.2567  

โดยมีผู้สมัครนายกเทศมนตรี 3 คน ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายสุทธิพงศ์ ทิพยศิลป์  อายุ 69 ปี ข้าราชการครูบำนาญ เป็นอดีตเลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ สมัยนายกมล เรืองสุขศรีวงศ์ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อปี 2556-2564  หมายเลข 2 นางพรศรี ไกรรณภูมิ อายุ 51 ปี เป็นกรรมการหอการค้า จ.บุรีรัมย์ ปี 2562-2564 และคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดบุรีรัมย์ (กธจ.) ปี 2563-2566 ภรรยา นายสกล ไกรรณภูมิ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ สมัยที่ผ่านมา และหมายเลข 3 นายวิกรม สมจิตต์อารีย์  อายุ 61 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อปี 2547-2551 และเป็นอดีตประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2560-2561

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลความเคลื่อนไหวในการลงพื้นที่หาเสียงของผู้สมัครทั้ง 3 ราย จะเห็นได้จากป้ายหาเสียงของผู้สมัครที่มีการติดตั้งแผ่นป้ายหาเสียงตามชุมชน ต่างแย่งชิงความได้เปรียบทางการมองเห็นของประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการหาเสียงผ่านสื่อโซเชียล ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว พบว่าผู้สมัครแต่ละราย ได้ชูนโยบายหาเสียงเอาไว้หน้าเพจ และป้ายหาเสียง ดังนี้

โดย นายสุทธิพงศ์ ทิพยศิลป์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ หมายเลข 1 ที่มีสโลแกนการหาเสียง “พร้อมเดินหน้า พัฒนาบุรีรัมย์” ซึ่งมีการแจกแผ่บพับแนะนำตัวไปตามชุมชน เป็นการเข้าถึงพี่น้องประชาชน

ขณะที่ นางพรศรี ไกรรณภูมิ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ หมายเลข 2 ที่ขออาสามารับใช้พี่น้องชาวเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ที่ชุนโยบายหาเสียง สนับสนุนประเพณีชุมชนให้อยู่คู่ชุมชน สนับสนุนให้คนเมืองมีส่วนร่วมและรับรู้ทุกการพัฒนา อย่างโปร่งใส ถูกกฎหมาย ไม่บิดเบือน และสานต่อนโยบาย นายกอ๋อง เพื่อให้ผลประโยชน์เป็นของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งทุกคะแนนเสียงของท่านเพื่อบ้านเรา

ด้าน นายวิกรม สมจิตต์อารีย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ หมายเลข 3 ได้มีการชูสโลแกนการหาเสียงเกี่ยวกับการ “ยกฐานะเทศบาลเมือง เป็น เทศบาลนคร เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า” ซึ่งก็มีการจัดรถโฆษณาหาเสียงตระเวนแห่ไปตามชุมชนในพื้นที่เลือกตั้งด้วย