วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำโดย นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่่ติดตามการบูรณาการร่วมตั้งด่านตรวจเข้ม ควบคุมรถควันดำ เพื่อลดมลพิษต้นทางของฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ตามมาตรการ "ยกระดับการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)"
โดยมี นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน,พ.อ.สมพร น้อยอุทัย หัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผนฯ กอ.รมน.ประจวบคีรีขันธ์ , นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ , นายธนวัฒน์ เรืองเดช ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ , นางสาวทวีพร เพิ่มทวี ขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายพงศ์เทพ ทองพัฒน์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน),นายเศรษฐ์ จันทอาด รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) ฝ่ายปฏิบัติการ, นายสุวิวัฒน์ พรหมมา หัวหน้าหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์/ประธานกู้ภัยตำรวจทางหลวงประเทศไทย ตลอดจน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมบูรณาการตั้งด่านฯ ที่บริเวณถนนบายพาส ทางหลวงหมายเลข 37 กม.32+825 (ฝั่งขาขึ้น) อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ด้าน นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือฝุ่น PM2.5 ที่พุ่งสูงในหลายจังหวัดขณะนี้ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
สำหรับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ดำเนินการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหามาโดยตลอด โดยหลังจากนี้จะยกระดับ เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันให้มากขึ้น เพื่อให้การดำเนินการตามข้อสั่งการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงาน โดยล่าสุดได้มีการตั้งศูนย์เตือนภัยฯ เกี่ยวกับค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ขึ้น หรือ "ศูนย์เฉพาะกิจการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี 2567"
ทั้งนี้เมื่อศูนย์เตือนภัยฯ ตรวจพบค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน จะมีการแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เกิดจุดความร้อน หรือ จุด Hotspot ในเขตอุทยานแห่งชาติฯ ทางศูนย์จะแจ้งเตือนไปยังอุทยานฯ เพื่อเข้าดำเนินการตรวจสอบทันที ขณะเดียวกัน หากเป็นฝุ่นละอองที่เกิดจากยานพาหนะ จะให้ทางขนส่งจังหวัดและทางตำรวจเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ
โดยในวันนี้ได้มาดำเนินการตั้งด่านวัดควันดำ รถบรรทุกและรถสาธารณะต่าง ๆ เพื่อช่วยลดค่าฝุ่น PM2.5 ให้น้อยลง ทั้งนี้โดยปกติแล้วค่าเฉลี่ยฝุ่น PM2.5 ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ค่อนข้างดี เฉลี่ยอยู่ที่ 11-15 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ยกเว้นบางวันที่สภาพอากาศเปลี่ยน เกิดกระแสลมแรง อาจมีการพัดพาฝุ่นละอองจากพื้นที่อื่นเข้ามาได้ ซึ่งภาพรวมถือว่าสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในเกณฑ์ดี อากาศบริสุทธิ์ สามารถท่องเที่ยวได้ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวที่ประจวบคีรีขันธ์ได้ และสำหรับมาตรการคุมเข้มกรณีฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้ จะดำเนินต่อเนื่องไปตลอดช่วงฤดูร้อนนี้ หรือ ประมาณ 3 เดือน คือ กุมภาพันธ์ มีนาคม และ เมษายน
อย่างไรก็ตาม สำหรับการตั้งด่านวัดควันดำจากท่อไอเสีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ควันดำจะต้องไม่เกินค่าตามที่กฎหมายกำหนด คือไม่เกิน 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มิเช่นนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 71 ฐานนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้งาน มีโทษปรับ 5,000 บาท และพ่นห้ามใช้รถทันที จนกว่าจะดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย