กลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกินจากผลกระทบเขื่อนคลองสังข์สลายตัวหลัง ทสจ.รับปากแก้ไขปัญหาให้จบ แฉพื้นที่หมดสัญญาเช่า กยท.-กรมป่าไม้ ยังมีการเก็บประโยชน์ต่อเนื่อง

กรณีกลุ่มอดีตลูกจ้างกรีดยางการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.และชาวบ้านที่เกี่ยวข้อง รวมตัวกันกว่า 100 คนเข้าปิดการจราจรบริเวณถนนหน้าสำนักงาน และได้ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยเรียกร้องให้มีการชี้แจงความชัดเจนในการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการถุกเลิกจ้างกรีดยางของ กยท.ไม่มีงานทำ สืบเนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนคลองสังข์ ในตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้พื้นที่ถนนบริเวณถนนหน้าสำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช และสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ความคืบหน้าเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2567 มีรายงานว่าช่วงเย็นวานนี้ นายยรรยงค์ อินทฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าเจรจาและรับฟังปัญหาการจัดสรรค์ที่ดินทดแทนหลังจากที่กลุ่มชาวบ้านเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นอดีตลูกจ้างได้รับกระทบถูกลอยแพจากการจ้างกรีดยางในพื้นที่ของ กยท. ที่ต้องนำไปก่อสร้างเขื่อนคลองสังข์ ในตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช  

โดยหลังจากที่นายยรรยง เข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีข้อตกลงร่วมกันคือจะมีการนัดหมายเจ้าหน้าที่ป่าไม้  กยท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพูดคุยรับฟังปัญหาข้อขัดข้อง รวมทั้งกระบวนการต่างๆที่ศาลาหมู่บ้านหมู่ 6 ตำบลกรุงหยันอำเภอทุ่งใหญ่ ในเวลา 13.00 น.ของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ รวมทั้งลงพื้นที่จัดสรรจำนวน 4,600 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่หมดสัญญาเช่าที่ กยท.ได้เช่าจากกรมป่าไม้ ซึ่งจะเป็นพื้นที่จัดสรรค์ที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านผู้ที่ได้รับผลกระทบ ภายหลังกลุ่มผู้ชุมนุมพอใจและยอมสลายตัว

อย่างไรก็ตามผู้เกี่ยวข้องรายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าในพื้นที่ 4,600 ไร่ เป็นพื้นที่เช่าเจ้าของพื้นที่คือกรมป่าไม้ เช่าโดยการยางแห่งประเทศไทย แต่สัญญาเช่าสิ้นสุดไปแล้ว กยท.ยังคงเข้าไปเก็บผลประโยชน์โดยยังคงว่าจ้างให้มีการกรีดยางและนำส่งน้ำยางทุกวัน ดังนั้นรายได้ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และยังมีข้อสงสัยว่าเมื่อรับน้ำยางไปแล้วจะเข้าสู่การยางจริงหรือไม่อยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง .