ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY โชว์ผลงานปี 66 เติบโตแข็งแกร่ง ทำรายได้รวม 1,702.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 648.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% รักษาอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูง 93.2% ประกาศจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/66 ให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ 0.1630 บาทต่อหน่วย พร้อมรุกปฏิวัติพื้นที่สีเขียวและลดการใช้พลังงานมุ่งสู่ "กรีน คอมมูนิตี้มอลล์" เน้น ESG ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานในพื้นที่เช่าเหลือไม่เกิน 34.4 kWh/ตร.ม. 

นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์อัลไล หรือ ALLY เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2566 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล (ALLY) สามารถรักษาผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยทำรายได้รวม 1,702.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 648.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับปี 2565 และด้วยการบริหารโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ มีการเพิ่มพื้นที่ให้เช่าจัดกิจกรรม (อีเวนต์) ในช่วงเทศกาลต่างๆ  ส่งผลให้รายได้ค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น 139.9 ล้านบาทจากปีก่อน คิดเป็นอัตราเติบโต 9.7% ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย ส่งผลให้ร้านค้าและผู้เช่าพื้นที่ของศูนย์การค้ากลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณลูกค้าเข้าใช้บริการที่ศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 11.0% จากปี 2565 ส่งผลดีต่ออัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) เฉลี่ยในปี 2566 อยู่ที่ 93.2% 

ขณะที่ไตรมาส 4/2566 กองทรัสต์มีรายได้รวม 427.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 166.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กองทรัสต์ฯ จึงพิจารณาจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดําเนินงานในไตรมาส 4/2566 ที่อัตรา 0.1630 บาทต่อหน่วย โดยมีกําหนดการวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยทรัสต์ (Book Closing) เพื่อสิทธิในการรับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 11 มีนาคม 2567 และจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 29 มีนาคม 2567 เมื่อรวมกับการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 กองทรัสต์จะจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่อัตรารวม 0.6600 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 10.23% เมื่อเทียบกับราคาตลาด ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2566 (6.45 บาทต่อหน่วย)

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 4/2566 กองทรัสต์มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิประมาณ 160,170 ตารางเมตร และอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 603 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน นอกจากนี้ กองทรัสต์ฯ สามารถต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิมได้กว่า 85% และทำสัญญากับผู้เช่ารายใหม่อีกกว่า 42 ราย เช่น ธุรกิจอาหาร ธุรกิจความงามและสุขภาพ ธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บทรัพย์สิน เป็นต้น 

นายกวินทร์ กล่าวอีกว่า กองทรัสต์อัลไล มีจุดเด่นมุ่งเน้น “พื้นที่สีเขียว” ภายในโครงการเพื่อเป็น “กรีนคอมมูนิตี้มอลล์” โดยลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์หลากหลาย ได้แก่ คอมมูนิตี้มอลล์ และโครงการมิกซ์ยูส (Mixed Use) ชั้นนำในทำเลที่มีศักยภาพในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในรูปแบบ Open-Air Lifestyle Mall เพิ่มพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติให้รายล้อมทั่วคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อเป็นจุดนัดพบสำหรับของลูกค้าสายกรีน สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

โดยปัจจุบันกองทรัสต์มีโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ที่เข้าลงทุนทั้งหมด 13 โครงการ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิรวม 13,571 ล้านบาท อาทิ โครงการคริสตัล ดีไซน์เซ็นเตอร์, เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา, เดอะ คริสตัล เอสบี (ราชพฤกษ์), สัมมากร เพลส รามคําแหง, สัมมากร เพลส รังสิต, กาดฝรั่ง วิลเลจ ฯลฯ คิดเป็นพื้นที่ให้เช่าสุทธิประมาณ 160,170 ตารางเมตร โดยกองทรัสต์อัลไล พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการขยายการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงไปในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์แบบอื่นๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ กองทรัสต์ฯ ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบ 3 ด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ซึ่งจะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น จึงได้มุ่งเน้นลดการใช้พลังงาน โดยตั้งเป้าลดการใช้พลังงานไม่เกิน 34.4 kWh/ตร.ม. พร้อมปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทน ได้แก่ โซลาร์รูฟท็อปใน 10 โครงการ คิดเป็นสัดส่วน 17% ของพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมด รวมถึงได้ติดตั้งแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Charger รวมกว่า 57 สถานีในทุกโครงการ