อัยการส่งหนังสือถึงผบ.ตร.ขอตรวจสอบดำเนินคดีอาญา 8 ผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์มินนี่ หลังถ่ายภาพร้องเรียนอัยการขณะปฏิบัติหน้าที่


นายยประยุทธ เพรชคุณ (เพ็ด ชะ ระ คุน) รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึง กรณีที่อัยการสูงสุดมีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้กำหนดความคุ้มครองความปลอดภัยกับ พนักงานอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุดที่เข้าร่วมให้คำแนะนำปรึกษาในการสืบสวนสอบสวน คดีที่จับกุมเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ (มินนี่)  จำนวน 2 คน คือ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และนายสุริยนประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้กับพวกจำนวน 8 คน ที่ยังรับราชการตำรวจอยู่ มีพฤติการณ์ข่มขู่คุกคามจากการเข้าไปให้คำแนะนำในการสอบสวนตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอในคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ (มินนี่) เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้ร้องเรียนการทำหน้าที่ของอัยการทั้ง 2 คน ต่ออัยการสูงสุด พร้อมกับแนบเอกสารภาพถ่ายที่ปรากฏภาพของนายกุลธนิตและนายสุริยนในขณะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นการติดตามและแอบถ่าย โดยผู้ถูกถ่ายภาพไม่ยินยอมและไม่รู้ตัว เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ในเชิงการคุกคามข่มขู่ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยต่อตนเองและครอบครัว จึงขอพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคณะพนักงานสอบสวนชั่วคราว จนกว่าสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยได้นั้น 

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางอัยการสูงสุดได้ทำหนังสือถึงพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีมาตรการป้องกันคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่อัยการทั้ง 2 คน, ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณามาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของบุคคลดังกล่าว และดำเนินมาตรการไม่ให้ผู้ต้องหาที่ยังคงรับราชการเป็นตำรวจทั้ง 8 คนคุกคามข่มขู่พนักงานอัยการและขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน   พร้อมให้อัยการทั้ง 2 คนหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะได้มีการดำเนินการตาม หากพนักงานอัยการเห็นว่ามีความปลอดภัยแล้วให้เรียนอัยการสูงสุดทราบ และแจ้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ในคดีนี้ต่อไป  

พร้อมขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบหากพบบุคคลกระทำความผิดอาญาให้ดำเนินคดีและรายงานผลคดีให้อัยการสูงสุดทราบด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้ากลับมาจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนกรณีที่พนักงานอัยการพักการร่วมสอบสวนในคดีนั้น จะมีผลต่อความล่าช้าในการสอบสวนหรือไม่นั้น เชื่อว่ามีอาจส่งผลกระทบ เพราะทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เป็นผู้ขอความร่วมมือมาทางอัยการเอง 

ด้านนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายภาพพนักงานอัยการระดับสูงในการปฏิบัติงาน เป็นการสะท้อนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า หากเกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปก็จะลำยากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ในคดีอาญานั้นต้องมีเจ้าทุกข์เป็นผู้แจ้งความ แต่ทางอัยการจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง