วันนี้ (18 ก.พ. 67) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสตูล เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายอาคารเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีอันดามันอนาโตเลียน โดยมีนายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รศ.ดร.อิสมาอิลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี นายอับดุลลอฮ์ อาเก็ม ประธานมูลนิธิอิบนูเอาฟ พร้อมด้วยนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น คณะจากต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ ประชาชน และนักเรียนนักศึกษา ร่วมการต้อนรับ ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีอันดามันอนาโตเลียน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล
สำหรับอาคารเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีอันดามันอานโตเลียนหลังนี้ ได้รับอนุญาตจัดตั้งวิทยาลัยฯ ตามใบอนุญาตเลขที่ สต 2/2555 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2555 ในชื่อวิทยาสัยเทคโนโลยีอิบนูเอาฟ ซึ่งจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ตามหลักสูตรกรมอาชีวศึกษา ภายใต้คอนเซป "อาชีวศึกษาบูรณาการอิสลาม" จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2563 มูลนิธิได้มีมติขอเปลี่ยนชื่อจากวิทยาลัยเทคโนโลยีอิบนูเอาฟมาเป็นวิทยาสัยเทคโนโลยีอันดามันอนาโตเลียน ภายใต้ชื่อดังกล่าวเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความร่วมมือของจังหวัดสตูลในฝั่งอันดามันของไทยกับเมืองในคาบสมุทรอนาโตเลียของทูร์เคียในการจัดการศึกษา โดยได้รับการสนับสนุนจากทางองค์กรมะอาริฟ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงการต่างประเทศของทูร์เคีย บูรณาการดำเนินงานร่วมกันเพื่อให้การประสานงานด้านหลักสูตรกับทางทูร์เคียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้บัณฑิตวิทยาลัยฯ ได้รับการรับรองวุฒิและสามารถประกอบอาชีพในประเทศทูร์เคียในอนาคต
ทั้งนี้ในปีการศึกษา พ.ศ. 2567 อาคารเรียนหลังนี้จะใช้ประโยชน์ในจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับนักเรียนนักศึกษา 5 สาขาวิชาจาก 2 หลักสูตร ได้แก่ 1) หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกอบด้วยสาขาวิชาการบัญชี และสาขาวิชาช่างต่อเรือ และ2) หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเทคโนโลยีการต่อเรือ สาขาวิชาการท่องเที่ยว และสาขาวิชาภาษาต่างประเทศธุรกิจ ซึ่งถือเป็นสถานศึกษาที่สำคัญต่อการบ่มเพาะความรู้และพัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านการท่องเที่ยว - ทางทะเลของจังหวัดสตูล มีความสอดรับกับทิศทางตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ใน 2 ประเด็น คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และการพัฒนาคนคุณภาพเพื่อเป็นกำลังหลักสำคัญต่อการพัฒนาจังหวัดสตูลต่อไป