เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 ก.พ.67 ศูนย์วิทยุ สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งจาก อบต.คลองข่อย ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ กุฏิพระภายในวัดกลางคลองข่อย ม.4 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี รถดับเพลิงเทศบาลโพธาราม เทศบาลเจ็ดเสมียน เทศบาลเขาขวาง เทศบาลคลองตาคต อบต.ท่าชุมพล ไปตรวจสอบและทำการดับไฟ 

ที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้กุฏิบนศาลาการเปรียญด้านทิศเหนือ จำนวน 3 ห้อง ชาวบ้าน ฝ่ายปกครอง พร้อมลูกศิษย์วัดได้ช่วยกันเอากระป๋องตกน้ำขึ้นมาทำการดับไฟที่กำลังลุกไหม้ พร้อมตระโกนให้ทำการตัดไฟ จนรถน้ำมาถึงก็ทำการดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำงานเร่งกับเวลา ด้านพระครูสังฆรักษ์สุเทพ สุเทโว เจ้าอาวาสวัดกลางคลองข่อย นายสุรชัย ทักษะปิยะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองข่อย กำนันพนม ทองศาสตร์ พร้อมฝ่ายปกครอง ได้เข้ามาค่อยควบคุมสังการณ์ 

ทางด้านพระครูสังฆรักษ์สุเทพ สุเทโว เจ้าอาวาสวัดกลางคลองข่อย  กล่าวว่า ช่วงเช้านี้พระในวัดมี5รูป ญาติโยมได้นิมนต์ไปฉันต์เช้าที่วัดวิหารสูง ในวัดเลยไม่มีพระอยู่ มีเพียงลูกศิษย์อยู่ ตนได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าไฟไหม้วัด จึงรีบกลับมาทันที่ ส่วนกุฏิทั้ง 3 ห้องนั้นเดิมที่เป็นกุฏิพระ แต่พระที่วัดน้อยจึงเอา3ห้องนั้นไว้เก็บของเช่นพรหม ผ้าม่าน ของใช้ต่างๆ ซึ่งคาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 1 ล้านบาท 

น.ส.สุดารัตน์ อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ม.8 คลองข่อย ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าตนเห็นเหตุการณ์คนแรก เนื่องจากตนได้นำอาหารมาใส่บาตรให้พระที่วัด มาถึงก็เดินเข้าไปตรงบันไดขึ้นศาลา ตระโกนเรียกพระพร้อมแจ้งความประสงค์ว่าจะมาใส่บาตร แต่ไม่มีเสียงตอบรับ และสังเกตุว่ามีกลุ่มควันขึ้นมาที่กุฏิห้องแรกติดกับห้องน้ำ ก็คิดว่าพระเข้าห้องน้ำและสูบบุหรี่ ก็เลยขับรถ จยย.ไปด้านหลัง แต่พอไปถึงก็ตกใจเพราะเห็นเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ จึงตระโกนไฟไหม้ๆ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ติดวัดด้านทิศเหนือได้ยิน จนมีคนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ อบต.คลองข่อยที่เข้าเวรอยู่แจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ทำให้รถน้ำมาเร็วจนสามารถดับไฟได้ทัน ซึ่งถ้าไม่มีญาติโยมมาใส่บาตรพระ คาดว่าไฟน่าจะไหม้หมดทั้งศาลาอย่างแน่นอน 

สำหรับวัดกลางคลองข่อย ในอดีตตามประวัติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ได้ธุดงค์มาทางเรือ ที่พื้นที่แห่งนี้ ต่อมาได้สร้างพระปางยืนอุ้มบาตร โดยหันหน้าเข้าหาแม่น้ำแม่กลอง เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางค้าขายทางเรือในสมัยนั้นได้กราบไหว้ จนมาสร้างเป็นวัดจนถึงปัจจุบัน สำหรับวัดกลางคลองข่อยนั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)ได้นำเอาพระสมเด็จบรรจุกรุไว้ ที่ใต้ฐานพระยืนอุ้มบาตร และใต้ต้นโพธิ์ ใต้ฐานพระประธานในโบสถ์ หรือที่เรียกชื่อพระสมเด็จว่า สมเด็จวัดกลางคลองข่อย เป็นที่นิยมของนักสะสมพระเครื่อง ซึ่งวัดกลางคลองข่อยเป็นวัดที่มีประชาชนในพื้นที่และต่างจังหวัดให้ความศรัทธา ต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพรจากสมเด็จโตกันเป็นจำนวนมาก เสียงประทัดจะดังเป็นระยะ จากคนที่มาขอพร