“ไชยา” ลงพื้นที่มหาสารคาม มอบนโยบายขับเคลื่อนปศุสัตว์เป็นอาชีพหลัก ดันส่งออกมีคุณภาพ เร่งสร้างรายได้ให้เกษตร
วันที่ 17 ก.พ.67 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดมหาสารคาม โดยมีนายกนก ศรีวิชัยนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม และนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 12 ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รอต้อนรับในพื้นที่ สำหรับช่วงเช้าเป็นการรับฟังข้อร้องเรียนของเกษตรกร และมอบพันธุ์ไม้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ณ วัดใต้โกสุม อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม จากนั้นรับหนังสือจากตัวแทนเกษตรกรเรื่องซ่อมแซมคลองส่งน้ำที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จนไม่สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรใช้อุปโภค-บริโภค ซึ่งทาง รมช. ไชยา และคณะได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริเวณคลองส่งน้ำที่เสียหาย พร้อมทั้งจะเร่งนำเรื่องเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ต่อไป
สำหรับช่วงบ่าย รมช.ไชยา และคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และหน่วยงานส่วนจังหวัดที่เกี่ยวข้อง รอต้อนรับในพื้นที่ ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ ไชยา ได้มอบนโยบายขับเคลื่อนการเกษตรด้านปศุสัตว์ให้เป็นอาชีพหลักของเกษตรกร เนื่องจากรัฐบาลกำลังปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อน ลดการนำเข้าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ และอยู่ระหว่างเจรจาเปิดตลาดการค้าสินค้าปศุสัตว์กับประเทศจีน เวียดนาม และซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงมอบหมายให้กรมปศุสัตว์เข้มงวดในการใช้มาตรการดูแล ปศุสัตว์มีชีวิตก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้กลไกราคาตลาดกลับมาเป็นปกติ รวมถึงเร่งศึกษาแนวทางการพัฒนาโรงงานวัคซีนที่ปากช่อง
โดยใช้แนวทาง 3 ข้อ ดังนี้ 1) ไม่กระทบงบประมาณ หรือใช้งบประมาณน้อยที่สุด 2) สามารถผลิตวัคซีนให้มีมาตรฐานและเพียงพอต่อการใช้งานในประเทศ 3) สามารถส่งออกขายต่างประเทศ และศึกษาไปถึงการให้เอกชนสัมปทานหรือให้ประเทศที่สนใจลงทุนโรงงานมาร่วมงานได้ พร้อมทั้ง ให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ บูรณาการกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้บริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกสำหรับทำหัวอาหารสัตว์เพิ่มมากขึ้น และจำหน่ายให้เกษตรกรในราคาถูก ลดการผูกขาดการซื้อหัวอาหารกับกลุ่มนายทุนที่มีราคาสูง พร้อมทั้งให้หน่วยงานในสังกัดให้ความรู้การทำหัวอาหารสัตว์จากการหมักใบมันสำปะหลัง ที่มีโปรตีนใกล้เคียงถั่วเหลือง ซึ่งเป็นทางเลือกในการลดต้นทุนอาหารสัตว์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ขอให้ดูแลอาสาสมัครปศุสัตว์ประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญ และช่วยกันประชาสัมพันธ์รับสมัครอาสาสมัครปศุสัตว์รุ่นใหม่มาช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่ร่วมกัน
หลังจากนั้น รมช. ไชยา ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ ณ ฟาร์มโคเนื้อ โชคเนรมิตรฟาร์ม (สาขา 2) ตำบลแวงน่าง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม พร้อมมอบใบรับรองการปฎิบัติการทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มโคเนื้อ (GAP) ให้กับฟาร์มดังกล่าวที่ผ่านการตรวจประเมินจากกรมปศุสัตว์ อีกด้วย