เมื่อวันที่ 17 ก.พ.67 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ มีข้อความระบุว่า
#สถานีต่อไปของพิธาและก้าวไกล
#ยุบพรรค
#ผิดจริยธรรมร้ายแรง
#จดหมายพิธาพยานชิ้นเอก
ความเสี่ยงที่ตามมาหลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ31มค2567
มีมติเอกฉันท์ว่าการกระทำของนายพิธาและพรรคก้าวไกล
เป็นการล้มล้างการปกครอง
กกต ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุคพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค10ปีตามพรบประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมืองมาตรา92 และศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำวินิจฉัยไว้ชัดเจนเรื่องความผิดล้มล้างการปกครอง ย่อมต้องมีมติให้ยุบพรรคไปตามคำวินิจฉัยที่มีไว้
ขณะที่ปปช ต้องไต่สวนและมีมติชี้มูลความผิดต่อพิธาและสส ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขมาตรา112 ไปศาลฎีกานักการเมืองเพื่อพิพากษาข้อหาผิดจริยธรรมร้ายแรงและตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต
จากเดิมสสที่ร่วมลงชื่อยังมีโอกาสลุ้นสู้คดี50/50 แต่จากกรณีจดหมายนายพิธา ถึงตะวันและแบม เมื่อ28 มค 66 อาจกลายเป็นเอกสารพยานหลักฐานสำคัญมัดตัวหลายเรื่องที่จะทำให้พิธาและพวกถูกดำเนินคดีหนักขึ้นและถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตได้
เพราะเนื้อหาในจดหมายจากนายพิธาในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลใน
ขณะนั้นทำให้เห็นการกระทำการทั้งในและนอกสภาในการให้การสนับสนุนการยกเลิกมาตรา112 และอาจบ่งบอกถึงการสนับสนุนทางความคิด การผลักดันในการเคลื่อนไหวร่วมกันของพรรคและขบวนการ
ทำให้เห็นความสุ่มเสี่ยงในอนาคตทางการเมืองของนายพิธา และพวก ที่ค่อนข้างมืดมน ในการถูกดำเนินคดีเพิ่มหลังถูกยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต
17 กพ 2567