เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองชุมพร วางแผนล่อซื้อน้ำต้มพืชกระท่อมร้านค้าแห่งหนึ่งกลางเมืองชุมพร ตะลึงพบว่าด้านหลังร้านกำลังต้มน้ำกระท่อมกับหม้อใบใหญ่น้ำเดือดปุดๆอีกจำนวนมากพร้อมเตรียมวางขายให้กลุ่มผู้ดื่ม สอบประวัติพบเคยถูกจับเมื่อเดือนก่อนแต่ไม่เข็ดกลับมากระทำความผิดซ้ำ
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 16 ก.พ.67 นายนพพร มีสติ ปลัดอาวุโส อำเภอเมืองชุมพร พร้อมด้วยนายธีระวุฒิ นุชนงค์ ปลัดอำเภอมืองชุมพร นำกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.เมืองชุมพร ที่ 2 เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ชุมพร เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขชุมพร (สสจ.) ฝ่ายเภสัชกร (อย.) เข้าตรวจสอบร้านค้าจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดแห่งหนึ่งริมถนนสายชุมพร-สี่แยกปฐมพรระนอง หมู่ 1 ตำบลวังไผ่ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร พบของกลางเป็นน้ำพืชใบกระท่อมแช่เย็นอยู่ในลังพลาสติกวางจำหน่ายให้ลูกค้าบริเวณหน้าร้าน
ขณะเดียวกันกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดรุดไปตรวจสอบบริเวณหลังร้านต้องตกตะลึงเมื่อลูกจ้างกำลังต้มน้ำพืชใบกระท่อมจำนวน 6 หม้อใบใหญ่ๆ น้ำกำลังเดือดปุด ปุด และยังพบใบกระท่อมสดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกและเข่งพลาสติกเตรียมต้มและที่ต้มเสร็จเตรียมจำหน่ายอีกจำนวนหนึ่งเจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนในหม้อต้มเจ้าหน้าที่ได้เททิ้งในที่เกิดเหตุ
พร้อมควบคุมตัว น.ส.ภิญญาพัชญ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี อยู่หมู่ 1 ตำบลวังไผ่ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร รับเป็นเจ้าของร้านค้าดังกล่าว และของกลางน้ำต้มพืชใบกระท่อมจำนวน 50 ลิตร บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกขนาด 1.5 ลิตรและขนาด 600 มล. มายังกองร้อย อส.เมืองชุมพร ที่ 2 บันทึกการจับกุมโดยแจ้งข้อกล่าวหา “ผลิตและจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อม อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยนายนพพร ปลัดอาวุโส เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองชุมพร สืบทราบว่าร้านค้าดังกล่าวมีพฤติกรรมลักลอบผลิตและจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อมให้กับผู้ดื่มทั่วไปซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจึงมอบหมายให้ นายธีระวุฒิ นุชนงค์ ปลัดอำเภอเมืองชุมพร นำกำลังเจ้าตรวจสอบและล่อซื้อจนสามารถพบการกระทำความผิดชัดเจนขณะกำลังต้มน้ำพืชกระท่อมอยู่ด้านหลังร้านค้าดังกล่าว ขณะเดียวกันพบว่าการผลิตและจำหน่ายเบื้องต้นทราบว่าเป็นรายใหญ่ของจังหวัดชุมพร จากการตรวจสอบพบร้านค้าดังกล่าวเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองชุมพรเข้าจับกุมเมื่อเดือนก่อนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่เข็ดครั้งนี้ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเมืองชุมพรจับเป็นครั้งที่สอง