ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อวันที่ 4 ณ คริปโตดอตคอม อารีนา ใน ลอส แอนเจลิส, แคลิฟอร์เนีย มีการจัดงานประกาศและมอบรางวัล แกรมมี่ จัดโดย สถาบันการบันทึกเสียงแห่งสหรัฐอเมริกา
แม้ว่าจะเป็นการจัดโดยองค์กรที่มีฐานอยู่ในอเมริกา แต่สำหรับคนที่ชอบดนตรี ถือกันว่า แกรมมี่ เป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมดนตรีโลก เพราะอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ที่สุด หรืออาจจะเรียกว่าเป็นเมืองหลวงของดนตรีโลกก็ได้ ไม่เพียงแต่ศิลปินอเมริกัน ศิลปินจากทุกมุมโลกก็อยากได้รางวัลนี้ เช่นเดียวกับอยากมีชื่อและผลงานติดบนตารางอันดับเพลงของ บิลล์บอร์ด
การโหวตรางวัล แกรมมี่ มาจากคณะกรรมการนับหมื่นคน ทั้งที่เป็นศิลปิน, นักร้อง/นักดนตรี, โปรดิวเซอร์, เอ็นจิเนียร์, นักวิชาการ และนักธุรกิจดนตรี มีการปรับปรุงกติกามาเรื่อยๆ แต่บางทีก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ อย่างในการแจกรางวัล แกรมมี่ ครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งที่ 66 มีจำนวนรางวัล 94 รางวัล โดยเพิ่มประเภทรางวัลใหม่เข้ามาอีก 3 รางวัล คือ Best African Music Performance, Best Alternative Jazz Album และ Best Pop Dance Recording
รางวัล Best African Music Performance ยังพอทำเนา แต่ 2 รางวัลหลังดูซ้ำซ้อนกับรางวัลในสาขาแจ็ซซ์และป๊อปที่มีอยู่แล้ว หรือยิบย่อยเกินไป ฮาร์วี่ย์ เมสัน จูเนียร์ ซีอีโอของสถาบันบันทึกเสียงฯ อ้างว่า จะทำให้กระบวนตัดสินรางวัลมี “ความยุติธรรม โปร่งใส และถูกต้องแม่นยำมากขึ้น” แต่ดูแล้วเหมือนมีขึ้นเพื่อเอื้อในทางธุรกิจมากกว่า
รางวัลที่ได้รับความสนใจและให้ความสำคัญมากที่สุดอยู่ในสนามหรือกลุ่มทั่วไป (General Field) โดยเฉพาะ 6 รางวัลแรกที่ถือกันว่าเป็น Big 6 ได้แก่
1. Record of The Year ปีนี้เพลงที่ได้รางวัลคือ “Flowers” ของ ไมลี่ย์ ไซรัส รางวัลนี้ตัดสินจากเพลงที่ออกมาเป็นซิงเกิ้ลแล้ว และองค์รวมทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในเพลง ทั้งการร้อง, ดนตรี, เนื้อเพลง และการผลิต การได้รางวัล แกรมมี่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกสำหรับ ไมลี่ย์ ไซรัส หลังจากเธอเข้าวงการมาตั้งแต่วัย 9 ขวบ ออกอัลบั้มติดท็อป 5 ทุกชุด ซึ่ง 3 อัลบั้มในจำนวนนั้นติดอันดับ 1 และมีเพลงฮิทอีกนับไม่ถ้วน
2. Album of The Year คืออัลบั้ม Midnights ของ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ไม่ต้องมีคำอธิบายสำหรับเบอร์หนึ่งของวงการดนตรีตอนนี้ ทั้งการขายผลงาน, ความมั่งคั่ง และอิทธิพลที่มีต่อผู้คน นอกจากนี้ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ยังได้ แกรมมี่ จากสาขา Best Pop Vocal Album ไปครองอีกด้วย
3. Song of The Year ได้แก่ “What Was I Made For?” ร้องโดย บิลลี่ ไอลิช อยู่ใน Barbie the Album อัลบั้มซาวน์ดแทร็คจากภาพยนตร์เรื่อง "Barbie" รางวัลนี้ตัดสินเฉพาะตัวเพลง คือ คำร้องและทำนอง ผู้แต่งคือ บิลลี่ ไอลิช โอ’คอนเนลล์ กับ ฟินเนียส โอ’คอนเนลล์
4. Best New Artist ได้แก่ วิคตอเรีย โมเน่ต์ นักร้อง-นักแต่งเพลงผิวสีชาวอเมริกัน ออกอัลบั้มเต็มชุดแรกชื่อJaguar II ในปี 2023 เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง แกรมมี่ ครั้งนี้ถึง 7 รางวัล และได้ไป 3 รางวัล คือ Best New Artist, Best R&B Album และ Best Engineered Album, Non-Classical การได้รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ โมเนต์ ในวัย 34 ปี เป็นการรอคอยที่คุ้มค่าจากความมุ่งมั่นที่ปล่อยผลงานในลักษณะอีพี.ออกมานานหลายปี
5. Producer of The Year รางวัลนี้ให้กับโปรดิวเซอร์ทุกประเภทดนตรี ยกเว้นคลาสสิคัลที่แยกย่อยไปอีกต่างหาก โปรดิวเซอร์ที่ได้รางวัลอาจจะมาจากผลงานที่เขาทำเพียงอัลบั้มเดียว หรือจากหลายอัลบั้มก็ได้ แกรมมี่ ครั้งล่าสุดนี้โปรดิวเซอร์แห่งปีคือ แจ็ค แอนโทนอฟฟ์ จากผลงานดูแลการผลิตให้อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทั้งยอดขายและคำวิจารณ์ ได้แก่ Being Funny In A Foreign Language ของวง เดอะ ไนน์ทีมเซเว่นตี้ไฟว์, Did You Know That There's A Tunnel Under Ocean Blvd ของ ลานา เดล เรย์ และ Midnights ของ เทยืเลอร์ สวิฟท์
6. Songwriter of the Year รางวัลนี้ก็เช่นกัน สำหรับนักแต่งเพลงทุกประเภทที่ไม่ใช่คลาสสิคัล ผู้ชนะในปีนี้คือ เธอรอน โธมัส นักแต่งเพลงผิวสีที่มีผลงานการแต่งและร่วมแต่งในเพลงดังมากมาย ส่วนปีนี้เขาได้จากการแต่งเดี่ยวและร่วมแต่งเพลง “All My Life” (ศิลปิน – ลิล เดิร์ค ร่วมด้วย โจ โคล), “Been Thinking” (ไทลา), “Cheatback” (ฌโล และ ฟิวเจอร์), “How We Roll” (เซียร่า และ คริส บราวน์), “Make Up Your Mind” (คอร์เด), “Pretty Girls Walk” (บิ๊ก บอสส์ เว็ทท์), “Seven (จังคุค และ แล็ตโต), “Told Ya” (ฌโล และ มิสซี่ เอลเลียท) และ “You And I” (Sekou)
จะเห็นว่า แกรมมี่ ครั้งที่ 66 นี้ เป็นปีของผู้หญิงจริงๆ ในจำนวน 6 รางวัลใหญ่ เป็นศิลปินหญิงคว้าไปครองถึง 4 รางวัล
ที่น่าสนใจอีกสนามหนึ่งคือ Rock Field ศิลปินกลุ่มใช้ชื่อวงว่า บอยจีเนียส เข้าชิง 7 รางวัล และได้ไป 3 ราง
วัล ได้แก่ Best Rock Performance และ Best Rock Song จากเพลง “Not Strong Enough” และรางวัล Best Alternative Music Album จากอัลบั้ม The Record
แม้จะมีคำว่า “บอย” อยู่ในชื่อวง แต่ บอยจีเนียส คือวงดนตรีที่ประกอบขึ้นด้วยศิลปินหญิงอินดี้ 3 คนมารวมตัวกัน ทั้งสามต่างเป็นศิลปินอิสระที่มีผลงานของตนเองมาก่อนแล้ว แต่เมื่อได้รู้จักพบเจอและเคมีเข้ากัน จึงนึกสนุกลองทำงานร่วมกัน และออกมาเป็นอัลบั้มแรก The Record ในปี 2023
แกรมมี่ ก็เหมือนรางวัลทางดนตรีทั่วไป ที่มีคำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่นั่นไม่สำคัญเท่าคำวิจารณ์ย้อนไป 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อปล่อยให้อิทธิพลทางการเมืองเข้ามาครอบงำ โดยเปิดโอกาสให้ประธานาธิบดีตัวตลกของยูเครนวิดีโอโฟนเข้ามาปราศรัยต่อผู้ชมในงาน