# พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงแนวทางการแสดงออกของกำลังพลต่อกรณีขบวนเสด็จฯว่า ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือการจงรักภักดีต่อสถาบัน กองทัพอากาศเองก็มีความรู้สึก แต่การแสดงออกต้องระมัดระวังเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

โดยวันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ ในทุกภาคส่วนและทุกหน่วยจะไปร่วมพัฒนาพื้นที่ ทำความดีด้วยหัวใจ ในลักษณะจิตอาสาเพราะเราเป็นทหารของพระราชา ก็จะดูว่าทำหน้าที่อย่างไรให้ดีที่สุด โดยจะไปทำกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลาง และต่างจังหวัดของกองทัพอากาศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราไม่ตอบโต้อะไร แต่รู้ว่าการทำดีจะชนะทุกสิ่ง

# นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการพักโทษ ว่าไม่ได้ประเมินอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องปกติเกี่ยวกับการเมือง ไม่น่ามีอะไรต้องห่วง

ส่วนการที่พรรคก้าวไกล ระบุว่าหลังจากนี้จะมีนายกฯสองคน นายสมศักดิ์ มองว่า ไม่จริง แต่เป็นการพูดให้เป็นผลทางการเมือง เป็นวาทกรรมก็ว่ากันไป จะพูดว่ามีนายกฯสอง สาม สี่ ห้าคน ก็ไม่เป็นไร ส่วนเรื่องการปรับครม.นั้นจากการรับฟังจากนายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ยังไม่ปรับ ซึ่งตนเองก็ยังสบายใจอยู่

# น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการที่รัฐบาล ตั้งอนุกรรมการศึกษาเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเพิ่ม  ว่า เหมือนการพายเรือวนในอ่าง และก่อนหน้านี้ตนเองได้แสดงความเห็นไปแล้วว่าการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาจะไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เนื่องจากได้สัญญาณมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าตัวรายงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยังไม่ได้เข้าครม.ดังนั้นทุกอย่างคงจะดีเลย์ไปอีก

# นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง  ให้สัมภาษณ์ยันยันว่า กกต. ไม่ได้เป็นเครื่องมือในการยุบพรรคการเมือง ฝั่งตรงข้ามรัฐบาล แต่คงห้ามใครคิดไม่ได้ กกต.ทำหน้าที่ตามกฎหมาย สำหรับกรณีที่มีการยื่นคำร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าการกระทำเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง นั้น ได้ให้สำนักงานและนายทะเบียนพรรคการเมือง ไปศึกษาคำวินิจฉัยศาลเท่าที่มีอยู่ในวันอ่าน และศึกษาว่าตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ตามอำนาจหน้าที่ที่มี และวันที่ 13 ก.พ.มีการเสนอเรื่องมาว่าอยู่ระหว่างการศึกษา

นายอิทธิพร กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) มีข้อห่วงใย ว่า นโยบายหาเสียงที่ต้องใช้เงินต้องส่งเอกสารและแสดงถึงวงเงิน และที่มาของเงิน ประโยชน์ ความคุ้มค่า ความเสี่ยงและผลกระทบ โดยกกต.ต้องดูว่า พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับการเลือกตั้ง ได้ส่งเอกสารตามมาตรา 57 แล้วหรือไม่ หากส่งช้าจะมีค่าปรับ หน้าที่ของกกต. ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองไม่ได้บอกให้ กกต. ดูว่า นโยบายที่เสนอมาถูกต้องตามที่แจ้งหรือไม่ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า เป็นนโยบายที่ไม่ตรงปก เพราะตอนแรกไม่ได้บอกว่าจะกู้เงินมาใช้ดำเนินนโยบายนั้น ประเด็นนี้ยังไม่มีข้อยุติของการดำเนินการนโยบายของรัฐบาล