"อุ๊งอิ๊ง" บอกครอบครัว ชินวัตร เตรียมรับ "ทักษิณ" ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า บอกหลานๆ เขียนการ์ดรอ 'สุทิน' มั่นใจ'ทักษิณ' ไม่ชี้นำปรับ ครม.หรือแทรกแซงโผทหาร "ชูศักดิ์"ชี้ไม่มีข้อห้ามอดีตนายกฯแสดงความเห็นทางการเมืองหลังพักโทษ ขณะที่'ก้าวไกล'เตือนระวังสภาวะนายก 2 คน บอกอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ตลอด
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 ก.พ.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะได้รับการพักโทษในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ว่า ตอนนี้ให้หลานๆ เขียนการ์ดแล้ว เมื่อถามว่า ทางครอบครัวจะรอให้การต้อนรับที่บ้านจันทร์ส่องหล้ากันทั้งหมดใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าจะไปรับกัน ทุกคนน่าจะไปรับอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณจะออกมาเวลาไหน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่า นายทักษิณจะได้รับการพักโทษวันที่ 18 ก.พ. หรือวันที่ 22 ก.พ. เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเป็น 2 วันนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถ้าคุณหมอว่าอย่างไรก็เป็นตามนั้น เมื่อถามย้ำว่า แพทย์ต้องตรวจอาการก่อนจะออกวันที่ 18 ก.พ.เลยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ค่ะ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกองทัพมองนายทักษิณอย่างไร ซึ่งใกล้ช่วงได้รับการพักโทษแล้ว นายสุทิน กล่าวว่า กองทัพไม่ได้สนใจบุคคล ซึ่งกองทัพสนใจระบบและสถานการณ์โดยรวมของประเทศ กองทัพไม่ได้สนใจบุคคลใดบุคคลหนึ่ง พรรคใดพรรคหนึ่ง เขามองภาพรวม และภารกิจของกองทัพไม่ได้คิดว่าใครจะได้ใครจะเสีย แต่คิดว่าประเทศอยู่ได้ ประเทศได้ประโยชน์เท่านั้นเอง เมื่อถามว่าแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ที่เข้าสู่ช่วงจัดโผโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลกลางปี ซึ่งเป็นโผแรกของนายกฯ และรมว.กลาโหม อีกทั้งเป็นช่วงหลังนายทักษิณได้รับพักโทษ จะจัดวางสมดุลอย่างไร ในการป้องกันการเมืองแทรกแซงและตรวจสอบกองทัพ นายสุทิน กล่าวว่า กองทัพเขามีโครงสร้างพิจารณาอยู่แล้ว มีระบบ มีประเพณีอยู่แล้ว เชื่อว่าเราก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซง เขาเป็นองค์กรที่มีวัฒนธรรมสั่งสมมา เชื่อว่าจะเดินไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณไม่เป็นปัจจัยในการแต่งตั้งโยกย้ายใช่หรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า ไม่อยู่แล้ว ท่านไม่ยุ่ง เรื่องนี้ไม่เห็นมีอะไร ท่านไม่ยุ่งอยู่แล้ว เมื่อถามว่า นายกฯ ได้ให้นโยบายในการจัดโผโยกย้ายนายพลหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า นายกฯ ได้กำชับเรื่องหลักๆ คือเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ การจัดซื้อจัดจ้าง และเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายให้เป็นไปโดยโปร่งใส ให้กำลังพลมีขวัญกำลังใจ และรักองค์กรของเขา
เมื่อถามถึงกรณีนักวิชาการออกมาระบุภายหลังนายทักษิณได้รับการพักโทษจะมีการปรับ ครม. นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ ซึ่งท่านทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่อง ครม. เมื่อถามว่า ขาเก้าอี้ รมว.กลาโหม โดนโยกหรือไม่ นายสุทิน (หัวเพราะ) และกล่าวว่า ไม่ได้คิดอะไร ยังดีอยู่ ก็เดินหน้าทำงาน ก็ยังเห็นอยู่วันนี้ ไม่มีอะไรไหวหวั่น ทำงานเต็มที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณจะได้รับการพักโทษ และจะได้รับการปล่อยตัว ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้น จนกระทั่งจบ เมื่อจบแล้วก็เป็นเรื่องของครอบครัวดูแล ส่วนจะออกมาเวลาไหน อย่างไร ให้เป็นเรื่องของครอบครัว ส่วนเราก็ปฏิบัติหน้าที่ของเราไป โดยส่งกำลังใจและความปรารถนาดีให้กับนายทักษิณ ที่คงจะดีใจมากที่ได้กลับมาพบกับครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตว่าหากนายทักษิณออกมาอาจเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง ในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกันเลย นายทักษิณออกมาก็กลับไปใช้ชีวิตปกติในครอบครัวของท่าน ส่วนเรื่องครม.ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นกระแสข่าวมาเรื่อย แต่พวกเรายังไม่เคยได้ยินและทำงานด้วยกันได้อย่างดี ถ้าจะมีอะไรจริง ต้องมีคนไปเสนอนายกฯ และนายกฯเห็นด้วยว่ามีปัญหา แต่เท่าที่ดูขณะนี้ยังไม่เห็นนายกฯพูดอะไร และดูจากการพบส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ยังมาร่วมแสดงความยินดีวันเกิดของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยิ้มแย้มแจ่มใสกันดีทั้งหมด ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า หากนายทักษิณกลับมาจะสามารถให้คำปรึกษารัฐบาลได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณเป็นคนที่มีประสบการณ์ เพราะฉะนั้นอาจเสนออะไรต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคม ต่อสาธารณะและส่วนต่างๆได้ทั้งหมด เราไม่ได้ไปปิดกั้น อย่าไปโฟกัสว่าท่านจะมาให้คำปรึกษา หรือกำหนดอะไรรัฐบาล ท่านสามารถเสนออะไรก็ได้ที่เห็นว่าไม่ดี หรือเห็นว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ก็เสนอต่อสาธารณะได้
เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลจะนำไปใช้ได้มากน้อยแค่ไหน รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดว่าจะต้องมีอะไร อย่าเพิ่งไปคิดว่ารัฐบาลต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ หรือนายทักษิณจะต้องมาทำแบบนั้นแบบนี้ เชื่อว่าท่านมีสิทธิ์ที่จะเสนอต่อสาธารณะ ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่ฟังทุกเสียงทุกคน เช่น เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตที่มีความเห็นแย้ง รัฐบาลพยายามฟังให้มากที่สุด เช่นเดียวกันใครที่มีความคิดเห็นอะไรก็ตาม ที่มีมาถึงรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง
ผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลในการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการพักโทษของนายทักษิณ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณ ได้ประกาศเจตจำนงตอนที่เข้ามาในประเทศว่าอยากใช้บั้นปลายชีวิตอยู่กับครอบครัว เพราะจากไปเกือบ 20 ปี และเมื่อเข้ามาได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างที่ทุกกลุ่มเคยเรียกร้องให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม และวันนี้ก็กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ศาล และกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ต้องดำเนินการ เป็นไปตามกฎระเบียบ และวิถีปฏิบัติเช่นนี้มาตลอด ดังนั้นสิ่งที่นายทักษิณทำเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้มีอะไรผิดแปลก เมื่อตัดสินใจกลับเข้ามารับการพิจารณาทั้งหมด และต่อสู้ตามเงื่อนไขที่ตัวเองมีสิทธิ
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวต้องกลับไปถามคนที่เคลื่อนไหวว่าประเด็นที่แท้จริงคืออะไร และการเคลื่อนไหวไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ในแง่การทำงานของรัฐบาล แต่เป็นการแสดงความเห็นอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถทำได้ รู้สึกดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบต่อเรื่องราวต่างๆก็แสดงความเห็นได้ จึงไม่เกี่ยวข้องกัน อย่าเอามาเชื่อมโยงให้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล หรือนายทักษิณ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราเคารพความเห็น เห็นต่างได้ เพราะไม่มีอะไรที่บอกว่าต้องเห็นเหมือนกัน ฉะนั้นไม่น่ากังวลใจอะไร จึงไม่อยากให้ไปกังวล หรือคิดว่าเรื่องนี้มีปัญหาไม่สบายใจแล้วจะเกิดอะไรขึ้นไปต่างๆนานา คิดแล้วไม่สบายใจ ถ้าคิดดังๆก็ทำให้สังคมไม่สบายใจ ขอให้ดูไปตามกระบวนการ ประชาชน สื่อมวลชน ก็เฝ้าติดตามดู ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งเราก็ยอมรับกระบวนการทางกฎหมาย แต่ถ้ามีปัญหาอะไรที่ไม่ยุติธรรม หรือจัดการไม่ถูก ก็ให้นำเสนอมาได้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการพักโทษของนายทักษิณ หากมีการให้มีความเห็นทางการเมือง ต้องมีการระมัดระวังอะไรหรือไม่ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาล ว่า ความเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องสิทธิทางการเมือง ไม่ได้มีกฎหมายบังคับว่าไม่ให้คุณมีความเห็นทางการเมือง เป็นสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของคนทั่วไปที่จะมีความคิดเห็นทางการเมือง ไม่มีอะไรไปห้าม เพียงแต่กฎหมายบางประเภทเขาไปห้ามเรื่องเช่น การไปตัดสิทธิ์ ห้ามลงสมัครหรือดำรงตำแหน่งอะไรต่างๆเป็นต้น แต่เรื่องของการแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยไม่ว่าใคร ก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงออกได้
เมื่อถามย้ำว่า การแสดงความคิดเห็นอาจมีเรื่องของการนำมาปรับใช้ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรห้าม ที่ผ่านมาก็มีคนไปร้องเยอะแยะ ร้องว่าเพื่อไทยถูกครอบงำเราก็บอกว่าท่าน เราก็บอกว่าท่านแสดงความคิดเห็นต่างๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราก็เอาความคิดเห็นเหล่านั้นมาใช้ หากเรานำเอาความคิดเห็นของใครมาใช้แล้วท้ายที่สุดบอกว่าผิดกฎหมาย มันแปลกประหลาดแล้วล่ะประเทศนี้
ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกล่าวกรณีที่นายทักษิณจะได้รับการพักโทษ ว่า สภาพดังกล่าวจะเหมือนกับการมีนายกฯ 2 คน ถ้าไม่ระมัดระวัง และจะมีปัญหาในการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการเสมอภาค ของกระบวนการยุติธรรม แน่นอนว่ายังมีคำถามอีกมาก เช่นสิทธิที่นายทักษิณได้รับในการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลโดยไม่ต้องอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว ซึ่งโดยหลักการพรรคก้าวไกลสนับสนุนสิทธิการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม แต่กรณีนี้ก็เกิดคำถามว่าได้รับอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่นหรือไม่ ซึ่งมีผู้ต้องขังน้อยมากที่ได้สิทธิแบบนายทักษิณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านจะตรวจสอบอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า ตอนนี้มีคนตรวจสอบเยอะว่าข้ออ้างเหตุผลของกรมราชทัณฑ์ ที่อ้างรายงานทางการแพทย์มีความถูกต้อง โปร่งใส ชัดเจนหรือไม่ ซึ่งอีกเรื่องหนึ่งที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญ ความเสมอภาคเท่าเทียมในการอำนวยความยุติธรรม ในกรณีนี้หลายคนพูดว่านายทักษิณควรได้รับการอำนวยความยุติธรรม เพราะถูกกระทำด้วยคดีความต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรมจากการรัฐประหาร พรรคก้าวไกลก็อยากจะบอกว่า คนที่ยังไม่ได้รับความยุติธรรมยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ทุกคนควรได้รับการอำนวยความยุติธรรม ไม่ใช่แค่นายทักษิณคนเดียว ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีความเชื่อมโยงกับการนิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีทางการเมืองด้วย นายชัยธวัชยังกล่าวว่า หากปล่อยไว้จะเป็นการเพิ่มความรู้สึกที่ไม่เท่าเทียมและเป็นธรรม โดยอาจจะไม่ได้ส่งผลฉับพลัน แต่จะสะสมในความรู้สึกข้องใจของประชาชน และถ้านายทักษิณได้รับการพักโทษออกมาแล้วรัฐบาลบริหารจัดการไม่ดี ก็อาจจะยุ่งได้ ส่วนจะเป็นข้อมูลพอในการนำมาซักฟอกรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนยังบอกไม่ได้ เมื่อถามว่า นายทักษิณได้รับการพักโทษจะเป็นผลบวกหรือลบต่อรัฐบาล นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็คงเป็นคำเตือนไปยังฝ่ายบริหาร ว่าอย่าทำให้เกิดสภาวะนายกฯ 2 คน ส่วนเก้าอี้นายกฯ ของ นายเศรษฐา ทวีสิน จะสั่นคลอนหรือไม่นั้น ถ้าบริหารจัดการไม่ดีก็จะมีปัญหา ส่วนกรณีที่นายทักษิณอาจจะมีการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองนั้น ส่วนตัวเห็นว่าทุกคนมีสิทธิที่จะทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอย่าทำให้เกิดความยุ่งยากในการบริหาร
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลจะมีการจับมือกับพรรคเพื่อไทยในอนาคตนั้น นายชัยธวัช ได้ร้องออกมาว่า "โอ๊ย" พร้อมกล่าวว่า ยัง พรรคก้าวไกลยังคงเป็นฝ่ายค้าน อยู่ที่ผลของการเลือกตั้งครั้งหน้า ยืนยันว่าแต่ขณะที่ยังเป็นฝ่ายค้านตนยืนยันว่าจะไม่จับมือในลักษณะที่เป็นแบบนั้น แต่หากเห็นว่าข้อเสนอของรัฐบาลเรื่องไหนที่เป็นประโยชน์ ก็ยินดีสนับสนุน