วันที่ 15 ก.พ.2567 เวลา 11.55 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของน.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน

โดยน.ส.ภคมน อภิปรายว่า นับตั้งแต่การรัฐประหารปี2557 มีการคุกคามสื่อมวลชนจำนวนมาก โดยเฉพาะการฟ้องปิดปากสื่อ ส่งต่อมาถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่มีการจับกุมสื่อมวลชนประชาไท จากกรณีผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งพ่นสีบนกำแพงวัดพระแก้ว เมื่อวันที่28มี.ค.2566 โดยหมายจับเชื่อมโยงระบุว่าสื่อมวลชนดังกล่าวที่นำเสนอข่าวเป็นการร่วมสนับสนุนผู้กระทำผิดในคดีอาญา ซึ่งรัฐบาล โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมาย ควรให้ความเคารพ คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน ในการจำกัดเสรีภาพสื่อด้วยวิธีการใดก็ตาม ต้องเป็นไปตามกฎหมาย การตั้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีต้องไม่สร้างข้อจำกัด หรือทำให้เกิดความหวาดวิตกในการนำเสนอข่าวต่อสาธารณะ



“ดิฉันขอตั้งคำถามว่าการดำเนินคดีดังกล่าวเป็นการดำเนินคดีโดยข้ามขั้นตอน เป็นการส่งหมายจับโดยไม่มีการส่งหมายเรียกมาก่อน เข้าใจว่าเป็นเรื่องในรัฐบาลที่แล้ว แต่การข้ามขั้นตอนแบบนี้ ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร จะมีแนวทางแก้ปัญหาในกระบวนการยุติธรรมอย่างไร โดยเฉพาะกับคดีฟ้องปิดปากแบบนี้ หากตอบไม่ได้ จะทำลายความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ นี่คือการส่งสัญญาณเตือนสื่อมวลชนเพื่อสร้างหวาดกลัวต่อการทำหน้าที่สื่อหรือไม่” น.ส.ภคมน กล่าว

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ตอบชี้แจงว่า ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิเสรีภาพ เราห่วงใยสิทธิเสรีภาพประชาชน และสื่อมวลชน แต่ตนเห็นว่าผู้อภิปรายว่าเหตุใดถึงเกริ่นย้อนหลังไปยาวขนาดนั้น เราอยู่กันอยู่แล้วว่ารัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเกิดปัญหา ควรเข้ามาสู่รัฐบาลนี้เลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าไปโยงแบบนั้น ทำเหมือนกับรัฐบาลนี้ได้เห็นพ้องต้องกันและทำมาตลอด ตนไม่อยากให้ใช้วาทกรรม หรือเหตุผลแวดล้อมเหล่านี้มาคุยหาทางแก้ปัญหาในรัฐบาลปัจจุบัน

“เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องปกป้องเสรีภาพสื่อมวลชน รัฐบาลยืนยันตรงนี้ และจะปฏิบัติอย่างเต็มที่ เราเห็นไม่ต่างกัน แต่สิ่งสำคัญการ ใช้สิทธิเสรีภาพต้องเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจไว้ หากมีสิ่งใดที่จะล่วงเกินหรือละเมิด ต้องให้กระบวนการยุติธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมยังไม่ยืนยันหรือสรุปอะไร ขณะนี้กระบวนการยุติธรรมกำลังทำหน้าที่ เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยรัฐบาลที่แล้ว รัฐบาลนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ดำเนินการมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการที่มีหลักฐาน ส่วนจะจริงหรือไม่การตัดสินใจอยู่ที่ศาล ประเด็นสำคัญคือได้ดำเนินการตามกระบวนการหรือไม่” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า รัฐบาลชุดนี้เพิ่งทำงานได้ 5 เดือน เป็นการทำงานที่ไม่ได้มีงบประมาณอะไรมาทำตามโครงการที่ตนเองอยากทำ เข้าสู่เดือนที่6รัฐบาลนี้ยังไม่ได้ใช้งบฯลงทุนเลย เราดำเนินการตามโครงสร้างต่างๆที่สั่งสมมาจากความผิดในอดีต หรือปัญหาที่ทับถมมา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าอำนาจรัฐบาลไม่มีทางอยู่เหนือกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ารัฐบาลไปปิดปาก รอดูกระบวนการยุติธรรมก่อน ถ้าชัดเจนแล้วว่าไม่มีหลักฐานแล้วมีการคุกคาม

ตนเชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่ปล่อยให้อำนาจ หรือเสรีภาพของประชาชนถูกคุกคาม อย่าเหมารวมว่าเป็นทั้งระบบ เราต้องคำนึงทั้ง2ฝ่าย คือประชาชน และเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้นายกฯ และคณะรัฐมนตรีทุกคน ต่างเคยถูกเฟคนิวส์ ใส่ร้ายป้ายสี จนถึงกระทั่งมีการคุกคาม แต่รัฐบาลไม่เคยมอบหมายใครไปฟ้องคนเหล่านี้เลย เพราะเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว จะมีการถูกคัดกรองจากวุฒิภาวะของสังคม และประชาชนที่มีจิตใจเที่ยงธรรมเอง



“กรณีของสื่อมวลชนทั้ง2รายที่ถูกจับกุม รัฐบาลเสียใจที่เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่หมายจับนี้ออกมาตั้งแต่เดือนพ.ค.2566 ทางฝ่ายความมั่นคงมีพยานหลักฐานที่ทำไว้ก่อนรัฐบาลชุดนี้จะเข้ามา  ดังนั้นกระบวนการออกหมายจับหรือจับกุม ไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจที่รัฐบาลนี้จะเข้าไปก้าวก่ายได้ ดังนั้นควรดูอย่างรอบด้าน ทำใจให้เป็นธรรม ท่านคงไม่สบายใจที่จะให้รัฐบาลไปล้วงลูกทุกคดีที่เกิดขึ้น ปล่อยให้กระบวนการทำไปแล้วถ้ามีปัญหาก็ค่อยแก้ไข วันนี้สื่อมวลชนทั้ง2คนได้รับการประกันตัว ขอให้รอดูว่าถูกหรือผิด ถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ แล้วค่อยมาดูว่าจะแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ถามจริงๆท่านสบายใจหรือ ที่หัวหน้า หรืออดีตหัวหน้าของท่านไปสัมพันธ์กับผู้ก่อคดีคุกคามขบวนเสด็จอยู่ โบราณว่ารักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี จู่ๆเรื่องนี้มาโทษรัฐบาล ผมว่าฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างมีเหตุผล แทนที่จะไปพูดถึงบุคคลที่ได้ดำเนินการถูกผิดแล้วเข้าสู่กระบวนการอย่างเคร่งครัด ท่านเรียกร้องให้เคร่งครัด เวลานี้กระบวนการยุติธรรมก็เคร่งครัด เมื่อวานนี้ท่านกำลังเรียกร้องให้เคร่งครัดอยู่ดีๆ วันนี้ท่านก็มาบอกว่ารัฐบาลกำลังใช้อำนาจคุกคาม

ท่านคงไม่สบายใจหากมีใครมากล่าวหาท่านว่าอยู่เบื้องหลังต่างๆ ผมขอให้ท่านใจเย็นๆอยากให้ช่วยคิด ช่วยดู ทุกอย่างว่าตามเหตุผล กฎหมาย กระบวนการกฎหมายทั้งกรณีพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว บีบแตรใส่ขบวนเสด็จ กำลังดำเนินการ แต่พยายามทำอย่างนุ่มนวล จนหลายคนบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำงานอย่างเคร่งครัด อยากให้ดูให้ครบถ้วน อย่าเพิ่งด่วนสรุป สร้างวาทกรรม ยืนยันรัฐบาลคุ้มครองสิทธิเสรีภาพทุกคน” นายภูมิธรรม กล่าว     

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่ากังวล อย่าหมกมุ่น อย่าจินตนาการว่ารัฐบาลใหม่เข้ามาทำแบบนั้นแบบนี้ เรายึดตามรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิเสรีภาพและคุ้มครองสื่อมวลชน และรัฐบาลส่งเสริมให้สื่อตรวจสอบกันเอง ตนไม่อยากให้เอาเรื่องในอดีตมาปลุกปั่นเป็นประเด็นในขณะนี้ ถ้าถึงที่สุดหลักฐานไม่เพียงพอค่อยมาวิพากษ์วิจารณ์ แต่เขายืนยันว่ามีหลักฐานครบถ้วน จึงขอให้กระบวนการดำเนินการไปก่อน