วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายกทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการพักโทษ และจะได้รับการปล่อยตัว ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้น จนกระทั่งจบ เมื่อจบแล้วก็เป็นเรื่องของครอบครัวดูแล ส่วนจะออกมาเวลาไหน อย่างไร ให้เป็นเรื่องของครอบครัว ส่วนเราก็ปฏิบัติหน้าที่ของเราไป โดยส่งกำลังใจและความปรารถนาดีให้กับนายทักษิณ ที่คงจะดีใจมากที่ได้กลับมาพบกับครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตว่าหากนายทักษิณ ออกมาอาจเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง ในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกันเลย นายทักษิณ ออกมาก็กลับไปใช้ชีวิตปกติในครอบครัวของท่าน ส่วนเรื่อง ครม. ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นกระแสข่าวมาเรื่อย แต่พวกเรายังไม่เคยได้ยินและทำงานด้วยกันได้อย่างดี ถ้าจะมีอะไรจริง ต้องมีคนไปเสนอนายกรัฐมนตรี และนายกฯเห็นด้วยว่ามีปัญหา แต่เท่าที่ดูขณะนี้ยังไม่เห็นนายกฯพูดอะไร และดูจากการพบสส. พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ยังมาร่วมแสดงความยินดีวันเกิดของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยิ้มแย้มแจ่มใสกันดีทั้งหมด ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าหากนายทักษิณกลับมา จะสามารถให้คำปรึกษารัฐบาลได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณเป็นคนที่มีประสบการณ์ เพราะฉะนั้นอาจเสนออะไรต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคม ต่อสาธารณะและส่วนต่างๆได้ทั้งหมด เราไม่ได้ไปปิดกั้น อย่าไปโฟกัสว่าท่านจะมาให้คำปรึกษา หรือกำหนดอะไรรัฐบาล ท่านสามารถเสนออะไรก็ได้ที่เห็นว่าไม่ดี หรือเห็นว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ก็เสนอต่อสาธารณะได้
เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลจะนำไปใช้ได้มากน้อยแค่ไหน รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดว่าจะต้องมีอะไร อย่าเพิ่งไปคิดว่ารัฐบาลต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ หรือนายทักษิณจะต้องมาทำแบบนั้นแบบนี้ เชื่อว่าท่านมีสิทธิ์ที่จะเสนอต่อสาธารณะ ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่ฟังทุกเสียงทุกคน เช่น เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตที่มีความเห็นแย้ง รัฐบาลพยายามฟังให้มากที่สุด เช่นเดียวกันใครที่มีความคิดเห็นอะไรก็ตาม ที่มีมาถึงรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง
ผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลในการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการพักโทษของนายทักษิณ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณ ได้ประกาศเจตจำนงตอนที่เข้ามาในประเทศ ว่าอยากใช้บั้นปลายชีวิตอยู่กับครอบครัว เพราะจากไปเกือบ 20 ปี และเมื่อเข้ามาได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างที่ทุกกลุ่มเคยเรียกร้องให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม และวันนี้ก็กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ศาล และกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ต้องดำเนินการ เป็นไปตามกฎระเบียบ และวิถีปฏิบัติเช่นนี้มาตลอด ดังนั้นสิ่งที่นายทักษิณทำเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้มีอะไรผิดแปลก เมื่อตัดสินใจกลับเข้ามารับการพิจารณาทั้งหมด และต่อสู้ตามเงื่อนไขที่ตัวเองมีสิทธิ
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวต้องกลับไปถามคนที่เคลื่อนไหวว่าประเด็นที่แท้จริงคืออะไร และการเคลื่อนไหวไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ในแง่การทำงานของรัฐบาล แต่เป็นการแสดงความเห็นอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถทำได้ รู้สึกดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบต่อเรื่องราวต่างๆก็แสดงความเห็นได้ จึงไม่เกี่ยวข้องกัน อย่าเอามาเชื่อมโยงให้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล หรือนายทักษิณ
“เราเคารพความเห็น เห็นต่างได้ เพราะไม่มีอะไรที่บอกว่าต้องเห็นเหมือนกัน ฉะนั้นไม่น่ากังวลใจอะไร จึงไม่อยากให้ไปกังวล หรือคิดว่าเรื่องนี้มีปัญหาไม่สบายใจแล้วจะเกิดอะไรขึ้นไปต่างๆนานา คิดแล้วไม่สบายใจ ถ้าคิดดังๆก็ทำให้สังคมไม่สบายใจ ขอให้ดูไปตามกระบวนการ ประชาชน สื่อมวลชน ก็เฝ้าติดตามดู ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งเราก็ยอมรับกระบวนการทางกฎหมาย แต่ถ้ามีปัญหาอะไรที่ไม่ยุติธรรม หรือจัดการไม่ถูก ก็ให้นำเสนอมาได้” นายภูมิธรรม กล่าว