จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ได้โพสข้อความลงหน้าเฟชบุ๊ค ใจความว่า เตือนภัยฝั่งทางฝั่งวัดม่วง วัดเฉลิมอาสน์โจรอาละวาดให้ระมัดระวังทรัพย์สิน พร้อมนำคลิปกล้องวงจรปิด ที่คนร้ายแอบย่องเข้ามางัดและยกตู้แลกเงินเครื่องซักผ้า ไป ซึ่งหลังจากได้นำมาลงในเฟซบุ๊ก ต่างมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อเจ้าของเฟชบุ๊คไป และประสานขออนุญาตินำข้อมูลมาเสนอข่าว ซึ่งต่อมาทางเจ้าของเฟชบุ๊คได้อนุญาต กล่าวว่าตนเป็นพี่ชายของเจ้าของร้านซักผ้าดังกล่าวอยู่ ม.2 ต.ท่าชุมพล อ.โพธาราม ซึ่งถูกคนร้ายเข้ามางัดตู้แลกเงินสำหรับไว้หยอดตู้ซักผ้า 

ผู้สื่อข่าวจึงขออนุญาตเข้าไปเพื่อเสนอข่าว ที่ร้านดังกล่าวพบน.ส.พัดชา ร่อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน พร้อมพาผู้สื่อข่าวไปชี้จุดที่คนร้ายงัดตู้แลกเงินไป ซึ่งร้านดังกล่าวเปิดบริการซักผ้าหยอดเหรียญมีตู้ไว้บริการให้กับชาวบ้าน มากว่า1ปีแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ส่วนในกล้องวงจรปิดปรากฏบุคคลในกล้องเป็นคนร้ายชาย2คน ได้ขับขี่รถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียนใาจอดด้านหน้าร้าน จากนั้นคนที่นั่งซ้อนได้ลงมาเป็นชายรูปร่างท้วม ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยึดสีดำ รางเท้าแตะหูไข่ว ที่ขาด้านขวามีรอยคล้ายเป็นแผลเป็น ได้ลงมาทำการงัดตู้แลกเหรียญ หลังจากงัดได้ ได้นำตู้ว่างไว้บนเครื่องซักผ้า แต่คนร้ายไม่สามารถยกออกมาได้เนื่องจากติดสายไฟ คนร้ายรายแรกจึงเดินกลับไปที่รถ ให้คนร้ายอีกคนรูปร่างผอมสูง สวมใส่กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อคลุมลายพราง สวมหมวกสีครีมแบบมีปีกรอบ สะพายกระเป๋าสีฟ้า รองเท้าแตะหูไขว้ มีไฟฉายคล้ายไฟส่งกบคาดที่หัว เข้ามาดู หลังจากคนร้ายรายที่2เข้ามาก็ทำการงัดและดึกปลั๊กออกได้สำเร็จจึงรีบอุ้มตู้แลกเงินขึ้นรถ ขับหลบหนีไปทางวัดม่วง

โดย น.ส.พัดชา ได้กล่าวว่าเครื่องแลกเหรียญที่ร้านถูกขโมยไป ตอนเวลา 00.45 น.ของวันที่ 11 ก.พ.67 ได้มีคนร้าย 2 คน คนหนึ่งสตารเครื่องรอ อีกคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วงัดจะเอาไปทั้งแผง ที่นี้มันเอาไปไม่ได้ และเหมือนกลับไปเอาอุปกรณ์มาอีกรอบหนึ่ง ซึ่งคนร้ายคนแรกได้ใส่หมวกและดูเหมือนมีไฟส่องกบคาดที่หัวและอุปกรณ์งัดแงะรอบเอวเลย ซึ่งจู้ดังกล่าวเป็นตู้สำหรับแลกเหรียญเพื่อบริการให้กับผู้ที่มาใช้บริการไว้สำหรับให้ผู้มาใช้บริการไว้นำแบงค์มาแลกเหรียญ เพื่อที่จะนำเหรียญมาหยอดใส่เครื่องซักผ้า ซึ่งในตู้นั้นมีเงินอยู่ 3,500 บาท แต่มูลค่าตู้มันมีราคาสูงซื้อตู้มา 16,000 บาท

ซึ่งทางร้านได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด 2 ตัวมีการระวังอยู่ตลอด แต่ชะล่าใจที่ไม่ได้ทำกรงเหล็กปล่อยโล่ง เพราะคิดว่ามีกล้องวงจรปิด 2 ตัว คนร้ายก็ยังกล้าเลย ในวันนี้เลยต้องให้ช่างมาทำการติดตั้งกรงเหล็ก ในส่วนของคนร้ายจะอาศัยมาก่อเหตุช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ซึ่งตนได้แจ้งความไว้แล้วซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดสืบสวนของ สภ.โพธาราม เดินทางมาดูที่เกิดเหตุแล้ว