เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 12 ก.พ.67 พ.ต.ท.บวรศักดิ์  คำรังษี รอง ผกก.สืบสวน สภ.เขื่องใน จ อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากนายวิชัย เกิดแก้ว ผู้ใหญ่บ้านธาตุน้อย ม.8 ต.ธาตุน้อย อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ว่า  มีคนร้ายเข้ามาลักข้าวเปลือก แล้วนำไปซุกซ่อนไว้ในป่าข้างถนนใกล้บ้าน โดยมีผู้เสียหายหลายรายแจ้งตำรวจเข้าติดตามจับกุมด่วน   

ต่อมาหลังจากได้รับแจ้ง พ.ต.ท.บวศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สืบสวน สภ.เขื่องใน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเวร กระจายกำลังไล่ติดตามหาข่าวที่ชัดเจน และ ทำการดักซุ่มตั้งกล้องถ่ายไว้ เพื่อดูคนร้ายที่จะกลับมาเอาข้าวเปลือก ต่อมาใช้เวลาไม่นาน คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายเบียน วิ่งเข้ามา   เพื่อเอากระสอบข้าวเปลือกขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วได้ขับออกไปตามถนนสายบ้านยางชุมน้อย ต.ธาตุน้อย อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการซุ่มอยู่ จึงขับขี่รถจักรยานยนต์อีกคันไล่ติดตาม ประมาณ 1 กิโลเมตร และสามารถจุบกุมตัวไว้ได้ทันที พร้อมของกลาง ข้าวเปลือก 2 กระสอบ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ สอบถามทราบชื่อภายหลังคือ นายมังกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี อยู่ ม.3 ต.ธาตุน้อย อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ตรวจสอบประวัติเคยเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์มาอย่างโชกโชน จำนวน  6 ครั้ง และพบเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ ตรวจปัสสาวะเบื้องต้นพบเป็นสีม่วงอีกด้วย   

เบื้องต้นนายมังกร รับสารภาพว่า ตระเวนขโมยข้าวเปลือกของชาวบ้าน เพื่อนำไปขายต่อ ตามแหล่งรับซื้อข้าวเปลือกในพื้นที่ต่างๆ โดยเงินที่ได้มา ครั้งละประมาณ 700-1,000 บาท เพื่อนำเงินที่ได้ไปซื้อยาบ้ามาเสพ และ ซื้อสุราดื่ม โดยเฉพาะยาบ้า เนื่องจากช่วงนี้ถือว่ายาบ้ามีราคาถูก เฉลี่ยเม็ดละ 20-30 บาทเท่านั้น  

พ.ต.ท.บวศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สืบสวน สภ.เขื่องใน ยังกล่าต่ออีกว่า พฤติกรรมผู้ต้องหาจะพยายามออกสำรวจตามบ้านเรือนประชาชนที่ไม่มีคนอยู่เฝ้าบ้าน และ มียุ้งฉางไกลตัวบ้านหรือลับสายตาคนในบ้าน โดยค่อยๆ ย่องขึ้นไปงัดและเปิดประตูยุ้งฉางเพื่อยกกระสอบข้าวเปลือกของชาวบ้านขนขึ้นรถจักรยานยนต์ออกไปตระเวนขาย เพราะการขนข้าวเปลือกบรรทุกไปกับรถจักรยานยนต์  ง่ายต่อการถูกคนอื่นมองหรือร้านรับซื้อข้าวเปลือกขนาดย่อยจะผิดสังเกต  เพราะคนส่วนใหญ่มักใช้รถจักรยานยนต์ขนข้าวเปลือกไปขายกันทั้งนั้น จึงอยากจะฝากเตือนกลุ่มร้านค้าหรือโรงสีข้าวทั่วไปตามตำบลต่างๆ  ควรตรวจสอบคนที่นำข้าวเปลือกไปขายอย่างละเอียด เพราะหากมีการจับกุมผู้ต้องหาได้เช่นนี้ อาจจะมีความผิดร่วมในคดีรับซื้อของโจร  และหากพบการกระทำผิด พบคนแปลกหน้าเอาข้าวเปลือกมาขายให้แจ้งตำรวจในพื้นที่แห่งนั้นมาตรวจสอบก่อนจะรับซื้อ  เพื่อป้องกันการเกิดคดีความทางกฎหมาย    

    

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในหมู่บ้าน หลายแห่งแจ้งว่า ตลอดเวลานี้เกิดโจรขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉางของชาวบ้านเยอะมาก และในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ทั้งดีใจ และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขื่องใน ที่จับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงที จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขื่องใน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป