เอกอัครราชทูตสาธารณ รัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยเดินทางมาเยือนจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีในระดับท้องถิ่น และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่น

วันนี้  12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. ที่ห้องรับรอง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มอบหมายให้ นายกำพล  สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.อ. เฉลิมพล ประเสริฐกุล รอง ผอ.รมน.  นายจิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้าและ นายบุญเลิศ ชดช้อย เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยในโอ กาสเดินทางมาเยือนจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศอินโดนีเซีย และประเทศไทยในระดับท้องถิ่น และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคกลางของไทย
   

นายกำพล  สิริรัตตนนท์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวขอบคุณท่านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย และคณะ ที่ได้กรุณาให้เกียรติเดินทางมาเยือนจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดขนาดกลางของประเทศไทย ซึ่งมีประชากรประมาณ 8 แสนคน ใน 11 อำเภอ ประชากรส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 70 อยู่ในภาคเกษตรกรรม แต่รายได้ของจังหวัดส่วนใหญ่มาจากภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ประชากรประมาณ  5 หมื่นคน ของจังหวัดนับถือศาสนาอิสลาม โดยจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ผู้คนต่างศาสนาและเชื้อชาติสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ทั้งนี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนการค้าการลงทุนจากประเทศอินโดนีเซีย โดยมีที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย มีทางออกทะเลผ่านแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเชื่อมโยงภาคกลางและภาคตะวันออก ในด้านการศึกษา จังหวัดฉะเชิงเทรา มีสถาบันอุดมศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ซึ่งพร้อมให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้  มีศิลปะวัฒนธรรมอันเก่าแก่และงดงาม รวมถึงอาหารทะเลและผลไม้ที่อร่อยขึ้นชื่อ จึงขอความร่วมมือทางสถานเอกอัคร ราชทูตอินโดนีเซียช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องราวของจังหวัดฉะเชิงเทราให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากยิ่งขึ้นด้วย


ด้าน ฯพณฯ ระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยก่อนได้รับเอกราชจากเนเธอร์แลนด์ มีผู้เรียกร้องเอกราชชาวอินโดนีเซียจำนวนหนึ่งมาพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และทั้งสองประเทศยังเป็นสมาชิกแรกเริ่มก่อตั้งอาเซียนเมื่อปี 2510 นอกจากนี้อินโดนี เซียยังเป็นประเทศที่มีหมู่เกาะมากที่สุดในโลก ประมาณ 17,000 เกาะ ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์และภาษาพื้นเมืองหลายร้อยกลุ่ม โดยชาวชวาเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด แต่สามารถอยู่ร่วมกันโดยมีเอกภาพท่ามกลางความหลากหลาย จึงขอความร่วมมือจังหวัดฉะเชิงเทราช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยไปท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซียมากขึ้นเช่นกัน โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย นอกเหนือจากจาการ์ตา เมืองหลวง และเกาะบาหลี ที่พร้อมรอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างอบอุ่น
 

 ภายหลังการพบปะหารือ จังหวัดฉะเชิงเทราได้มอบ "สมุดภาพฉะเชิงเทรา" ซึ่งรวบรวมภาพถ่ายเก่าแก่และศิลปวัตถุ อันสะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่และทรงคุณค่าของชาวฉะเชิงเทรา ให้แก่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย และคณะ พร้อมกันนี้ ทางสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ได้มอบผ้าบาติกชั้นดีจากชายฝั่งตอนเหนือของเกาะชวาให้แก่จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นที่ระลึกด้วย