เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ก.พ.2567 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2566 (The Prime Minister's Industry Award 2023) พร้อมกล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปีพุทธศักราช 2566 ขอขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ที่ได้จัดให้มีพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม และขอแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมและรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น

นายกฯ กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ นับเป็นโอกาสดีที่เศรษฐกิจไทยมีทิศทางการเติบโต และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของการอุปโภค บริโภคภาคเอกชนในเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะหมวดบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ที่กำลังมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในหลายมิติ

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนภาคอุตสาหกรรม รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด ซึ่งเป็นแหล่งจ้างงาน และที่สำคัญเป็นภาคเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับประเทศมากที่สุด ยังเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ เทคโนโลยีให้ก้าวหน้า และกระจายออกไปสู่ภาค อื่นๆ การสะสมประสบการณ์ และความชำนาญของผู้ประกอบการไทย ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยไม่เป็นรองใครในโลกนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย และแข่งขันในเวทีโลก โดยใช้ฐานความรู้อย่างสร้างสรรค์ การลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาฝีมือแรงงาน และการบริหารจัดการที่ทันสมัย รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เอื้อต่อการลงทุน เพื่อสนับสนุนความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมไทยที่จะแสวงหาประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ

นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลจะช่วยเหลือและสนับสนุนการเจริญเติบโตการส่งออก โดยจะช่วยเดินหน้าเปิดตลาดการส่งออกให้มากยิ่งขึ้น ผ่านการเซ็นสัญญา FTA กับประเทศต่างๆ ในขณะเดียวกันจะช่วยผลักดันการยกระดับศักยภาพ ผ่านการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะพาทักษะใหม่ๆ และห่วงโซ่อุปทานที่มีมูลค่าสูงขึ้นเข้ามาเป็นแรงผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมไทย ต้องขยับตัวให้เก่งขึ้นด้วย และรัฐบาลขอสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปยังอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคต

นายเศรษฐา กล่าวว่า  ขอขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้จัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม และรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นการสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาคุณภาพ และผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน และสามารถแข่งขันในเวทีการค้าโลกต่อไป 

“ การทำงานของรัฐบาลนี้จะเป็นการทำงานในเชิงรุก เราจะเปลี่ยนระบบวิธีการทำงาน เราจะพาเจ้าของบริษัท นักพัฒนาอุตสาหกรรมหลายๆ คนที่อยู่ในที่นี้ ออกไปค้าในเวทีโลกให้มากขึ้น ซึ่งเป็นความหวังของรัฐบาลนี้ เพราะหากท่านมีพาร์ทเนอร์ในการลงทุน ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศร่วมกัน และพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไทยให้ดีขึ้นในอนาคต

รัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนทุกมิติ ทั้งจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หรือการนำผู้บริหารระดับสูงของบริษัทร่วมทุนจากต่างชาติ มาเจอกับผู้นำรัฐบาลเช่น ตนหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ตนเชื่อว่าจะเป็นมิติใหม่ในการทำงานเชิงรุกที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรม ไทยให้มีการแข่งขันที่ไม่น้อยหน้าใครในเวทีโลก” นายกฯ กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า พร้อมกันนี้ขอแสดงความยินดีกับสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมและรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2566 และขอให้ท่านรักษามาตรฐาน การดำเนินงานนี้ไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้รับการยอมรับในระดับสากลและนำอุตสาหกรรมไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป