กองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี KA ระบุ รัฐบาลทหารเมียนมาสั่งเกณฑ์ทหารยิ่งเป็นผลดีต่อชนกลุ่มน้อย ที่จะได้มีแนวร่วมเพิ่มขึ้นและกลับไปต่อต้านผู้นำทหารของเมียนมาในที่สุด ขณะที่สถานการณ์ค่ายทหารเมียนมา ฐานผาห่มน้ำหรือค่ายปากเสือ เมียนมาเร่งส่งเสบียงอาหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้แนวหน้าหลังมีข่าวว่า จะถูกกองกำลังผสมคาเรนนีจะเข้าโจมตี

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 แหล่งข่าวผู้นำสูงสุด กองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี KA เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า จากการที่รัฐบาลทหารเมียนมา ได้มีการประกาศประกาศ บังคับใช้กฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารแก่พลเรือนชายและหญิง เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยจะมีการบังคับเกณฑ์ทหารทั้งหญิงชาย /ผู้ชาย 18-35 ปี ส่วนผู้หญิง อายุระหว่าง 18-27 ปี เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี บุคคลที่ไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกอาจถูกลงโทษจำคุกเท่ากับจำนวนปีที่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร เรื่องดังกล่าว ทางด้านชนกลุ่มน้อยกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ไม่ได้หวั่นเกรงแต่อย่างใด และมองว่า รัฐบาลทหารเมียนมา ได้หมดหนทางในการสู้รบกับ กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มต่าง ๆ ซึ่งหากมีการเกณฑ์ทหารจริง คนเหล่านั้นที่ถูกเกณฑ์และถูกบังคับมาเป็นทหารย่อมไม่พอใจ และมีความเป็นไปได้สูงที่พากองทหารใหม่เหล่านั้น แปรพักตร์มาหาชนกลุ่มน้อย กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มต่าง ๆ อย่างแน่นอน ในปัจจุบันมีทางเดียวที่รัฐบาลทหารเมียนมา จะหาทางออกได้ก็คือ การหันหน้าเข้าเจรจากับชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม และเปิดทางให้มีการปกครองในรูปแบบสหพันธรัฐ และหันหน้ามาร่วมพัฒนาประเทศ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทางด้านชนกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มต่าง ๆ ได้เคยเสนอให้รัฐบาลทหารเมียนมา มาแล้วหลายสิบปี แต่รัฐบาลทหารเมียนมาไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว จนทำให้มีการลุกฮือต่อต้านทหารรัฐบาลอย่างรุนแรง จนถึงทุกวันนี้ 

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองกำลังผสม คาเรนนี ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังทหารคาเรนนี KA กองกำลังป้องกันชาติคาเรนนี KNDF กองกำลัง KNPLA ( คาระระต๊ะ หรือกลุ่มดาวแดงเก่า ) และ กองกำลังพิทักษ์ประชาชนคาเรนนี  PDF กับทหารเมียนมา ล่าสุดกองกำลังผสมสามารถยึดฐานหลักไมล์ที่ 12 ของทหารเมียนมาได้อย่างเบ็ดเสร็จ และ เป้าหมายต่อไป คือฐานที่มั่นทหารเมียนมา ค่ายปากเสือ หรือ ค่ายผาห่มน้ำ ซึ่งอยู่ตรงข้ามช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ของไทย ห่างจากชายแดนไทยไปทางด้านทิศตะวันตก 5.6 กม.

ล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 11 ก.พ.67 ) เวลาประมาณ 15.00 น. พบว่า ทหารเมียนมา ได้มีการส่งเฮลิคอปเตอร์ ลำเลียงอาวุธกระสุนและเสบียงอาหารมาให้ทหารเมียนมา ค่ายปากเสือ/ผาห่มน้ำ จำนวน 2 เที่ยวบิน ก่อนหน้านั้น ทางด้านกองบัญชาการควบคุมทางยุทธศาสตร์ บอลาแคะของทหารเมียนมา ได้แจ้งเตือนทหารเมียนมา กองพัน.ร.54 และ พัน.ร.135 ที่สนธิกำลังเพื่อป้องกันค่ายผาห่มน้ำหรือค่ายปากเสือ ว่า ได้มีการตรวจพบการเคลื่อนไหวของกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อย กลุ่ม KA,KNDF,PDF บริเวณหมู่บ้านโปงเลา 1 ชุด อยู่บนเนินเขาตรงข้ามค่ายปากเสือ/ผาห่มน้ำ 2 ชุด และรอบฐานค่ายปากเสือ/ผาห่มน้ำ อีก 6 ชุด และมีแนวโน้มจะมีการบุกเข้าโจมตีทหารเมียนมาเพื่อยึดฐานที่มั่นดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้ โดยเตือนทหารทหารเมียนมาทั้ง 2  กองพันให้เตรียมพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อรับมือจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม

เมื่อวันที่ 11กุมภาพันธ์ 2567  ในช่วงเช้า ทหารเมียนมากองพันที่  60 ได้ จับกุมเยาวชนอายุ 18 ปี จำนวน 40 คน ในเขตเมืองสะแกอิง หมู่บ้านตําบลนาท และหมู่บ้านเลิงกี่ ชาวบ้านกล่าวว่า ทั้งหมดถูกจับในเมือง Sagaing ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ รัฐบาลทหารเมียนมา ออกกฎหมายบังคับเกณฑ์ทหาร