สมาคมนักเรียนเก่าไทย - อิหร่าน จัดเสวนาทางวิชาการเรื่อง “วิกฤตการณ์ปาเลสไตน์ในปัจจุบัน : สาเหตุ ปัญหา พัฒนาการ ผลกระทบต่อโลกอิสลามและไทย”  ที่ห้องแกรนด์ มีรอซ ชั้น 3 โรงแรมอัลมีรอซ รามคำแหง กรุงเทพฯ  เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ทำความเข้าใจ ทั้งในมิติสาเหตุ ปัญหา พัฒนาการและความท้ายทายร่วมสมัยของวิกฤตการณ์เผชิญหน้าปาเลสไตน์-อิสราเอลในรอบปัจจุบัน

โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา  และ ฮุจญตุลอิสลามซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำมุสลิมชีอะห์แห่งประเทศไทย ประธานมูลนิธิอัลละห์ดีและอดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน  ร่วมเสวนา  ภายใต้หัวข้อ “บทบาทหลักในการช่วยเหลือแรงงานไทยและหน้ามุสลิมไทย ท่ามกลางวิฤตการณ์ปาเลสไตน์”  ดำเนินการเสวนาโดย นายสมพร หลงจิ บรรณาธิการบริหารสำนักข่าวเอ็มทูเดย์ 

ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์  กล่าวถึงการเข้าไปมีส่วนช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันว่า  นอกเหนือจากความเป็นมุสลิมแล้ว การช่วยเหลือครั้งนี้ ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของประธานรัฐสภา ที่ต้องดูแลความสุข-ทุกข์ของประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ  เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ หน้าที่ของเราคือต้องหยิบยื่นความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทันที เพราะเราไม่อาจจะไปรบในกาซ่า ไม่สามารถจะไปเห็นว่าประชาชนที่นั่นเดือดร้อนอย่างไร แต่อย่างน้อยความเห็นใจต้องมีความเห็นใจ โดยไม่ได้มองว่าเป็นการล้ำเส้นรัฐบาล เพราะไม่ว่าจะเป็นคนไทยคนใด หรือองค์กรใด ถ้าสามารถช่วยเหลือชีวิตของคนไทยได้ ถือเป็นหน้าที่ของทุกคน รัฐบาลก็เข้าใจเป็นอย่างดี แต่บางบทบาทนั้น รัฐบาลไม่สามารถทำได้ เพราะข้อผูกพันของกฎหมายระหว่างประเทศ  เช่น การเจรจาติดต่อกันโดยตรง ยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะทำไม่ได้  

“ช่วงนั้นทูตอิสราเอลเดินทางมาพบผมที่รัฐสภา แล้วเล่าเรื่องการจับตัวประกัน ผมดูท่าทีแล้วคิดว่าเรื่องนี้คงยาวคงยาวไม่สงบง่ายๆ  ลองคิดดูว่าถ้าเราถูกจับตัวประกันในที่ที่เราไม่รู้จัก ภาวะทางจิตใจคงเป็นทุกข์มากแน่นอน ไม่รู้ว่าชะตากรรมจะถูกปล่อยเมื่อไหร่ ฉะนั้นผมจึงเห็นใจคนกลุ่มนี้ ถ้าเราสามารถช่วยเหลือได้ ถึงแม้ว่ายังไม่สามารถจะให้ได้รับการปลดปล่อย แต่ให้รู้ว่ามีคนกำลังช่วยเหลือพวกเขา ซึ่งซัยยิดสุไลมานมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอิหร่าน ก็จะสามารถช่วยได้” นายวันนอร์กล่าว  

ประธานรัฐสภา  ยังกล่าวถึงบทบาทรัฐสภาไทยกับการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ด้วยว่า รัฐสภาไทยเป็นเครือข่ายสมาชิกในองค์กรรัฐสภาหลายองค์กร อาทิ  รัฐสภาโลก (IPU) ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันที่สวิตเซอร์แลนด์ในเดือนมีนาคมนี้  โดยคาดว่าประเทศมุสลิมหลายประเทศที่เข้าร่วมจะนำปัญหาปาเลสไตน์ขึ้นมาหารือ  ซึ่งตนได้มอบหมายให้ผู้แทนรัฐสภาไทยยืนหยัดตามมติของสหประชาชาติ  คือต้องให้ความเป็นธรรมกับชาวปาเลสไตน์  ต้องหยุดยิงและต้องไม่มีการทรมาน เพราะมติของสหประชาชาติมีความชัดเจนในเรื่องของการปกครองในเรื่องมนุษยธรรม แต่ปัจจุบันคือ อิสราเอลกับประเทศมหาอำนาจบางประเทศไม่ปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ ซึ่งรัฐสภาโลกต้องเดินหน้าพูดคุยต่อไป  นอกจากนี้ ยังมีเวทีของรัฐสภาเอเชีย ซึ่งจะประชุมร่วมกัน ที่อาเซอร์ไบจาน วันที่ 20 – 24 ก.พ.นี้  โดยตนจะเดินทางไปประชุมด้วยตนเอง เพื่อติดตามมติสหประชาชาติและมติของสังคมโลก 

“เราก็สนับสนุนมติของสหประชาชาติและปาเลสไตน์อยู่แล้ว มติของสหประชาชาติซึ่งเป็นมติของชาวโลกสนับสนุนข้อเรียกร้องของชาติปาเลสไตน์ โดยเฉพาะของรัฐสภาเป็นก็สนับสนุน แต่ที่ยังไม่สามารถจะแก้ปัญหานี้ได้ เพราะมีการปฎิเสธจากประเทศอิสราเอลและบางมหาอำนาจไม่ให้ยอมรับ ซึ่งเป็นทำให้ปัญหายืดเยื้อและเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลืออย่างไม่ยอมแพ้”  ประธานรัฐสภา กล่าว และเรียกร้องคนไทยที่ยังไม่เข้าใจ ช่วยกันรับฟังติดตามสถานการณ์อย่างเป็นธรรม เพื่อสร้างจิตสำนึกในการช่วยเหลือ

ขณะที่ ฮุจญตุลอิสลามซัยยิดสุไลมาน เปิดเผยถึงที่มา ที่ไปของการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในปาเลสไตน์ว่า  ได้มีการหารือกับผู้ใหญ่ถึงการมีบทบาทเข้าไปช่วยเหลือตัวประกัน เพราะเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ที่มีกับอิหร่าน รวมทั้งความสัมพันธ์กับขบวนการปาเลสไตน์เป็นอย่างดี จึงมีการแต่งตั้งผู้เจรจาขึ้น โดยเลือกขอความช่วยเหลือจากอิหร่านมากกว่าประเทศอื่น เนื่องจากถือเป็นประเทศที่อิทธิพลกับฮามาสมากที่สุด และให้การสนับสนุนฮามาสในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น อาวุธ การเงิน หรือยุทธวิธี รวมทั้งมองว่า ถ้าจบปัญหานี้ได้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างซุนนีกับชีอะห์ในประเทศไทย ยืนยันว่า คนไทยไม่ได้ติดร่างแห แต่ถูกหลอกไปทำงานในดินแดนที่มีข้อพิพาทกัน หากใครอยู่บริเวณนั้นคือผู้รุกราน ดังนั้นคนไทยเลยถูกจับไป แต่คนไทยจำนวนมากยืนข้างปาเลสไตล์ ภาคประชาชนเอื้อการทำงานเป็นอย่างมาก ส่วนความช่วยเหลือตัวประกันไทยอีก 8 คนที่เหลือนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากกว่ากรณีก่อนหน้านี้ เพราะไม่รู้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่ได้อยู่ในการเจรจา แต่อีกฝ่ายรับปากจะดูแลให้ อย่งไรก็ตาม มองว่าสงครามนี้เป็นสงครามทั้งอุดมการณ์และศาสนา จบยาก ต้องให้ยิวใหม่ออกจากแผ่นดินปาเลสไตน์ทั้งหมดจึงจะจบ