นายกฯ ลงพื้นที่ จังหวัดลพบุรี ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองลำสนธิ ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้ทางตรวจติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งลำคลองลำสนธิ  ณ วัดสิงหาราม ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่แก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน จากน้ำเซาะตลิ่งในช่วงฤดูน้ำหลาก  ซึ่งอำเภอชัยบาดาล ได้รับงบประมาณมาดำเนินโครงการ 2 ระยะ คือ โครงการระยะที่ 1  ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง บริเวณหมู่ที่ 2 ต.บัวชุม ความยาวเขื่อน 1,010 เมตร งบประมาณ 61 ล้นบาท ขณะนี้มีน้ำขังพื้นที่ก่อสร้าง ผู้รับจ้างได้ขอสงวนสัญญา เนื่องจากไม่สามารถเข้าทำงานได้จนกว่าระดับน้ำจะลดลง  ส่วน โครงการระยะที่ 2 ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 3  ตำบลบัวชุม ความยาวเขื่อน 475 เมตร งบประมาณ 37 ล้าน ขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการ กำหนดส่งมอบงาน ในเดือนกรกฎาคม 2567
      


  ในการนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย จะนำเสนอของบประมาณดำเนินโครงการฯ ในระยะที่ 3 จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณคลองลำสนธิฝั่งตรงข้ามวัดสิงหาราม หมู่ที่ 1 ตำบลบัวชุม มีบ้านเรือนของประชาชน อาศัยอยู่ริมตลิ่ง ประมาณ 23 ครัวเรือน ยาวประมาณ 240 เมตร จุดที่ 2 บริเวณริมแม่น้ำป่าสักฝั่งตรงข้ามวัดสิงหาราม ที่ต่อจากคลองลำสนธิ จากจุดที่ 1 มีอาคารบ้านเรือนของประชาชนอาศัยอยู่ติดกับริมแม่น้ำ ประมาณ 16 ครัวเรือน และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบัวชุม 1 แห่ง ระยะทางยาวประมาณ 280 เมตร  จุดที่ 3 ริมแม่น้ำป่าสักฝั่งทางติดกับวัดสิงหาราม ถึง วัดโบสถ์ หมู่ที่ 3 ตำบลบัวชุม มีอาคารบ้านเรือนของประชาชนอาศัยอยู่ติดกับริมแม่น้ำ ประมาณ 12 ครัวเรือน และวัด 2 แห่ง ระยะทางยาวประมาณ 980 เมตร และจุดที่ 4  บริเวณริมคลองลำสนธิ บริเวณสะพายท่าจิก ฝั่งของหมู่ที่ 2 ตำบลบัวชุม มีอาคารบ้านเรือนของประชาชนอาศัยอยู่ติดกับริมแม่น้ำ ประมาณ 20 ครัวเรือน ระยะทางยาวประมาณ 230 เมตร  รวมอาคารบ้านเรือนของประชาชนอาศัยอยู่ติดกับริมแม่น้ำรวมทั้งสิ้น  71 ครัวเรือน ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการตามแนวลำคลองลำสนธิไปบรรจบแม่น้ำป่าสัก
     

    ทั้งนี้ หากโครงการฯ ดำเนินการแล้วเสร็จจะช่วยป้องกันและลดการพังทลายของพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำในบริเวณดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะได้อย่างคุ้มค่า ทั้งในการพักผ่อนหย่อนใจ เป็นที่ออกกำลังกายของประชาชนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง
       


   ด้าน พระครูสุนทรธรรมทิน เจ้าอาวาสวัดสิงหาราม รองเจ้าคณะอำเภอชัยบาดาล กล่าวว่า.... ในช่วงฤดูน้ำหลาก ปีไหนน้ำมาก ทุกปีชาวบ้านจะพากันอพยพหนีน้ำมาอยู่กันที่วัด แต่พอน้ำท่วมวัด ก็จะพากันอพยพกันไปอยู่ที่วิทยาลัยการอาชีพ ซึ่งจะเป็นประจำทุกปี และปัญหา คือ หลังจากที่น้ำลดแล้ว...ตลิ่งก็ทรุด ดินก็สไลน์ ทุกปี ทั้งวัด และบ้านเรือนประชาชน ชำรุดเสียหาย เป็นอย่างมาก ก็หวังให้ทางท่านนายก มาช่วยแก้ไข.....ซึ่งเขื่อนป้องกันตลิ่งพังสามารถช่วยได้เยอะมากเลย  
           


  ขณะที่ คุณ ป้าน้อย หรือ คุณป้า ประภา นาเจริญ ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จ.ลพบุรี บอกว่า.....โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้  เพราะน้ำมาเป็นประจำทุกปี แต่การมีเขื่อนป้องกันตลิ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้ตลิ่งพัง ต้องลองดูว่า หลังสร้างเสร็จแล้ว ตลิ่งจะพังไปอีกไหม  ซึ่งที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่ได้กลัวน้ำท่วมเพราะถือว่ามันเป็นธรรมชาติ แต่ที่ชาวบ้านกลัวคือ ตลิ่งพัง ซึ่งมันสร้างความเสียยหายให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก การที่ท่านนายกมาลงพื้นที่ ได้มาดูด้วยต้นเอง ถือเป็นเรื่องที่ดี จะทำให้ท่านได้รับทราบปัญหาจากชาวบ้านโดยตรงด้วย