ปลัดมหาดไทย เผยยอดลงทะเบียนวันที่ 71 ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 1.4 แสนราย มีมูลหนี้นอกระบบรวมกว่า 9,798 ล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว 12,768 ราย มูลหนี้ลดลงกว่า 667 ล้านบาท เน้นย้ำ ทุกจังหวัดเร่งเจรจาการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ พร้อมหาแหล่งทุนใหม่ให้ประชาชน โดยสามารถลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้ถึงวันที่ 29 ก.พ. 67 นี้
วันนี้ (9 ก.พ. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงผลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบวันที่ 71 โดยเมื่อเวลา 15.00 น. สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานผลการลงทะเบียน พบว่า มีประชาชนลงทะเบียนแล้ว 140,516 ราย มูลหนี้รวม 9,798.077 ล้านบาท เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 118,064 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 22,452 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 109,951 ราย มีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก ดังนี้ 1. กรุงเทพมหานคร ยังคงมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 11,111 ราย เจ้าหนี้ 8,004 ราย มูลหนี้ 855.098 ล้านบาท 2. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 5,670 ราย เจ้าหนี้ 5,271 ราย มูลหนี้ 386.474 ล้านบาท 3. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 5,204 ราย เจ้าหนี้ 4,154 ราย มูลหนี้ 340.602 ล้านบาท 4. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 4,879 ราย เจ้าหนี้ 3,896 ราย มูลหนี้ 417.293 ล้านบาท 5. จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน 3,726 ราย เจ้าหนี้ 2,626 ราย มูลหนี้ 334.482 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 229 ราย เจ้าหนี้ 235 ราย มูลหนี้ 14.110 ล้านบาท 2. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน 326 ราย เจ้าหนี้ 242 ราย มูลหนี้ 23.373 ล้านบาท 3. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 369 ราย เจ้าหนี้ 289 ราย มูลหนี้ 13.861 ล้านบาท 4. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน 446 ราย เจ้าหนี้ 329 ราย มูลหนี้ 19.999 ล้านบาท และ 5. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 465 ราย เจ้าหนี้ 350 ราย มูลหนี้ 24.200 ล้านบาท
“สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศพบว่า มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 21,348 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 12,768 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนการไกล่เกลี่ย 1,945.029 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 1,277.437 ล้านบาท มูลหนี้ลดลง 667.592 ล้านบาท และจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์เช่นเดิม โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 3,196 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 347 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 263.744 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 34.989 ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ลดลง 228.755 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ และมีความประสงค์จะดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่แล้ว 263 คดี ใน 34 จังหวัด” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้กระทรวงมหาดไทยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงการคลัง เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเชิงรุก เพื่อทำให้ประชาชนผู้มีความเดือดร้อนจากการต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อใช้ประทังชีวิต ประกอบอาชีพ และดูแลครอบครัว ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร ได้ใช้กลไกทุกระดับในพื้นที่ ด้วยการจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขต พร้อมทั้งมอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยรับลงทะเบียน และหน่วยไกล่เกลี่ยประนีประนอม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ รวมทั้งหาแหล่งทุนใหม่ให้พี่น้องประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนด้วย
"ตนได้สั่งการเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเร่งเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินให้เร็วที่สุด เพื่อให้ลูกหนี้ที่ลงทะเบียนไว้ได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้รวดเร็วที่สุด สำหรับกรณีเจ้าหนี้ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการเจรจาไกล่เกลี่ยนั้น ได้มีแนวทางให้ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งให้ใช้กลไกระดับพื้นที่ในทุกภาคีเครือข่าย เร่งประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องให้ลูกหนี้นอกระบบเข้ามาลงทะเบียนให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก 20 วัน ที่พี่น้องประชาชนยังคงสามารถลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเราจะรับลงทะเบียนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ สามารถลงทะเบียนได้ทั้งทางระบบออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือลงทะเบียนได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย