หลังจากที่กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่ง ที่ 3790/2566 ลงวันที่ 22 พ.ย.2566 ให้นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 73/1 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 89/2567 เรื่อง ให้ขยายระยะเวลาการจัดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ ลงวันที่ 17 ม.ค.2567
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และข้อ 7 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ จึงประกาศให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์
โดย คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมือง (ทม.) บุรีรัมย์ ได้มีการสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ ในระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องประชุมสภา (ชั้น 4) สำนักงานเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ และจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 17 มีนาคม 2567 โดยการเลือกตั้งให้ถือเขตของเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เป็นเขตเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ มีจำนวน 1 เขต มีนายกเทศมนตรี จำนวน 1 คน
โดยบรรยากาศการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ วันแรก ถึงวันที่ 4 ของการเปิดรับสมัคร ที่ห้องประชุมสภา ชั้น 4 สำนักงานเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่มีผู้เดินทางมายื่นก่อนเปิดรับสมัครนายก ทม.บุรีรัมย์ แม้แต่คนเดียว ทำให้ไม่มีการจับสลาก และยังไม่มีใครเดินทางมาสมัครแม้แต่คนเดียว
นางสาวปิยนาฏ กลางพนม ผอ.กต.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การรับสมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติแต่อย่างใด ยังไม่มีผู้มาสมัคร โดยได้กำชับให้คณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ ที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ให้กระทำด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากพบว่าเจ้าหน้าที่หรือกรรมการรายใด วางตัวไม่เป็นกลางจะถูกดำเนินการตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด
ถึงแม้ว่าใน4วันแรกในการเปิดรับสมัครเลือกตั้งจะไม่มีผู้มีความประสงค์ลงสมัครแม้แต่คนเดียว แต่คอการเมืองเชื่อว่า สนามเลือกตั้งแห่งนี้จะมีการแข่งขันที่ดุเดือดเข้มข้นแน่นอน ซึ่งการไม่มีผู้สมัครในวันแรกนั้นเป็นเพราะ ต่างรอดูท่าทีของผู้สมัครคู่แข่ง โดยคาดว่าจะเป็นผู้สมัครของกลุ่มการเมืองหน้าเดิมที่เคยส่งลงสมัคร และจะมีการแข่งขันค่อนข้างเข้มข้นดุเดือดแน่นอนเพราะมีการแบ่งขั้วการเมืองอย่างชัดเจน
จนกระทั่งในวันที่ 2 ก.พ.67 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ปรากฏว่าบรรยากาศตั้งแต่เช้าเริ่มคึกคัก เมื่อนายสุทธิพงศ์ ทิพยศิลป์ ข้าราชการครูบำนาญ เป็นอดีตเลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ สมัยนายกมล เรืองสุขศรีวงศ์ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อปี 2556-2564 เดินทางมาก่อนเวลา 08.30 น. คนเดียว โดยไม่มีผู้ติดตาม และไม่มีผู้สนับสนุน ยื่นใบสมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ในนาม "กลุ่มอิสระ" เป็นคนแรก ได้หมายเลข 1
ต่อมาเวลา 14.17 น. นางพรศรี ไกรรณภูมิ ภรรยา นายสกล ไกรรณภูมิ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ สมัยที่ผ่านมา ได้เดินทางมาพร้อมกับผู้ติดตามและผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่ง ยื่นใบสมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ในนาม "กลุ่มอิสระ" ได้หมายเลข 2
และในเวลา 15.06 น. ได้มีนายวิกรม สมจิตอารีย์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อปี 2547-2551 เดินทางมาคนเดียว โดยไม่มีผู้ติดตาม และไม่มีผู้สนับสนุน ยื่นใบสมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ในนาม "กลุ่มอิสระ" ได้หมายเลข 3
ซึ่งมีนายคมกริช สายชมภู ปลัดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาล รับสมัคร และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย โดยการรับสมัครในวันนี้เป็นวันสุดท้าย ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.และจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 17 มี.ค.2567
โดยหลังจากวันรับสมัครเสร็จสิ้น ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครว่ามีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แล้วก็จะมีการประกาศรายชื่อผู้สมัครภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันรับสมัคร
นอกจากนี้ กกต.ประจำเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้งเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ แก่ผู้สมัครนายกเทศมนตรี ผู้สนับสนุน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งมีความเข้าใจในกระบวนการ วิธีการหาเสียงเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายมากขึ้น เพื่อต้องการให้การเลือกตั้ง ในวันที่ 17 มีนาคม 2567 นี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมานฉันท์ เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นที่ยอมรับของประชาชน
โดยนายเกรียงศักดิ์ สมจิต ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะประธาน กกต.ประจำเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ ซึ่งสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ กกต.ประจำเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จัดขึ้น โดยมี น.ส.ปิยนาฏ กลางพนม ผอ.สนง.กกต.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ กกต.บุรีรัมย์ กกต.ประจำเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ และผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ผู้สนับสนุน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เข้าร่วมกว่า 30 คน รับฟังการชี้แจง ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติ วิธีการและลักษณะต้องห้ามการหาเสียงเลือกตั้ง ความผิดและโทษรวมทั้งการยื่นบัญชีค่าใช่จ่ายในการเลือกตั้ง เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ กระบวนการจัดการเลือกตั้ง ข้อห้ามความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง และสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต โปร่งใส และเกิดการยอมรับในเรื่องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้รักสามัคคี
ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ตลอดจนผู้ให้การสนับสนุนครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความรู้ในเรื่องของกฎหมาย และระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างให้ผู้สมัครรับการเลือกตั้งรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้รักสามัคคี เพราะผู้สมัครทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนบุรีรัมย์ เป็นคนในท้องถิ่นเดียวกัน ดังนั้น จึงอยากให้รักษาความเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง มีความสมานฉันท์ปรองดองกัน เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองท้องถิ่นของตนเอง และร่วมกันจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ เป็นไปอย่างสุจริต และโปร่งใสต่อไป
ส่วนใครจะได้รับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ จากผู้สมัครจำนวน 3 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายสุทธิพงศ์ ทิพยศิลป์ หมายเลข 2 นางพรศรี ไกรรณภูมิ และหมายเลข 3 นายวิกรม สมจิตอารีย์ ในวันที่ 17 มีนาคม 2567 จะได้รู้กัน