โจ๋วัย อายุ 17 ปี ขับขี่รถจักนยานยนต์ไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนช่วงวันหยุด กลางดึกออกมาซื้อของมีคนพบ รถจักรยานยนต์ล้มข้างทาง เจ้าตัวนอนนิ่งริมทาง  กู้ชีพเร่งปฐมพยาบาลคิดว่าประสบอุบัติเหตุ แต่แพทย์ตรวจพบกระสุนฝังศรีษะ แพทย์เร่งผ่าตัดช่วยเหลือชีวิต ตำรวจคาดอริเก่าก่อเหตุตามมาพบตัวเลยแก้แค้น ชุดสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นเคส ที่เร่งห้ามเยาวชนออกนอกเคหะสถานหลัง 4 ทุ่มโดยไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วย 

วันที่ 9 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อช่วงกลางกดึกเวลาประมาณ 01.20 น. พ.ต.ท.ปรัชญา บูรณัติ พนักงานสอบสวนเวร สภ.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งมีคนถูกอาวุธปืนยิงที่ศีรษะ ถูกส่งตัวมาทำการรักษาที่โรงพยาบาลบางเลน โดยมีอาการสาหัส จากนั้น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือนายเอก อายุ 17 ปี (นามสมมติ ขอสงวนนามสกุล) อยู่บ้านเลขที่ 188 ม.3 ต.ไผ่หูช้าง อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าที่ศีรษะด้านหลัง กระสุนฝังใน โดยทีมแพทย์ได้ทำการช่วยปฐมพยาบาลยื้อชีวิตไว้ในเบื้องต้น

ต่อมาได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยชุดสืบสวน เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยพบว่าเป็นดงปรือ บริเวณปากทางเข้าวัดลานคาหมู่ 10 ต. ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่พบว่ามีร่องรอยของรถ จยย.เสียหลักล้มเป็นทางยาวพุ่งลงไปในดงปรือ โดยมีรอยเลือดกองอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บบันทึกพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้เพื่อประกอบสำนวนและหาร่องรอยของคนร้ายที่ก่อเหตุ 

จากการสอบถาม เบื้องต้น จากกลุ่มเพื่อนและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเอก ผู้บาดเจ็บ ได้ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ในงานวันเกิดเพื่อนตั้งแต่หัวค่ำ จากนั้นช่วงกลางดึกได้ขี่รถ จยย. ออกมาจากบ้านงานโดยบอกว่าจะออกมาซื้อของ โดยมาเพียงลำพังคนเดียว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์จุดบางเลน ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยายนต์ล้มมีผู้ได้รับบาดเจ็บหมดสติอยู่ข้างทาง จึงได้เร่งมาช่วยนำร่างออกจากโพรงปรือและนำส่งโรงพยาบาลบางเลน แต่ทีมแพทย์ ได้ตรวจพบที่ศรีษะถูกยิงมีกระสุนฝั่งอยู่ จึงได้เร่งนำส่งต่อมายังโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อยื้อชีวิตตอนนี้อาการยังสาหัส 

ซึ่งประเด็นในการยิงนายเอก ครั้งนี้น่าจะเกิดจากคู่อริติดตามตัวมาเจอช่วงขับขี่รถออกจากบ้านงานเลี้ยง หรือมาพบตัวระหว่างทางจึงได้ก่อเหตุ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นทางเปลี่ยวไม่มีพื้นที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญตัวคนในงานเลี้ยงมาทำการสอบปากคำว่าว่า นายเอกมีประเด็นทะเลาะขัดแย้งกับใคร หรือเป็นการขัดแย้งระหว่างกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จึงได้นำมาสู่การก่อเหตุ 

ทั้งนี้กรณีดังกล่าว เป็นในช่วงที่ มีมาตรการและนโยบายควบคุมพฤติกรรมของเยาวชนที่มีอายุ ต่ำกว่า 18 ปี ที่ห้ามไม่ให้มีการอกจากเคหะสถานในช่วงหลังเวลา 22.00 น. โดยไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วยและยังเป็นการก่อเหตุโดยอาวุธปืนซึ่งเป็นการกวดขันการใช้อาวุธอย่างหนักในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 โดยเป็นนโยบายของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร.