ยังไม่จบ! ศาลเลื่อนนัดฟังคำตัดสินคดี "ลุงจรูญ" ฟ้อง "ครูปรีชา" คดีหวย 30 ล้าน ครูปรีชา-เจ๊พัช-เจ๊บ้าบิ่น ขอชดใช้ 2.5 ล้าน หลัง ลุงจรูญ ฟ้องกลับเบิกความเท็จ
ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ.67 ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความของครูปรีชา น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ในความผิดฐานร่วมกันฟ้องเท็จกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา กรณีนายปรีชาและทนายฟ้องร้องร.ต.ท.จรูญ ปมถูกสลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.2560 หมายเลข 533726 จำนวน 5 ใบ รวมเงินรางวัล 30 ล้านบาท ทั้งที่นายปรีชารู้อยู่แล้วว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวไม่ใช่ของตัวเอง ซึ่งมีการต่อสู้คดีกันมาหลายปี จนศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดว่านายปรีชาไม่ใช่เจ้าของสลาก
ต่อมา นายปรีชาและนางรัตนาพรเดินทางมาถึงศาล โดยเผชิญหน้ากับฝ่ายโจทก์ แต่ไม่ได้พูดคุยกัน ขณะที่เจ๊บ้าบิ่น ได้ปลีกตัวออกไปก่อน โดย นายปรีชา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีความกังวลใดตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมา เพราะความจริงก็คือความ
โดยเจ๊พัชรับฟังการตัดสินคดีเสร็จสิ้นก่อนเปิดเผยว่า วันนี้ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉินคดีที่ตนและเจ๊บ้าบิ่น ร่วมกับครูปรีชา ถูกฟ้องร้องในข้อหาเบิกความเท็จ โดยครูปรีชาไกล่เกลี่ยและจะชดใช้เงิน 2.5 ล้านบาท แต่ยังไม่ตกลงรายละเอียด จึงขอเลื่อนการจ่ายออกไปก่อนโดยมีเงื่อนไขกำหนดไว้ แต่ครูปรีชาจะเป็นผู้ชี้แจงเอง
ส่วนตัวถามว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ลอตเตอรี่ก็แพง ได้กำไรแค่ใบละ 10 บาท แต่หากผลสั่งให้ต้องจ่าย ก็ไม่มีเงินจะจ่าย ไม่มีทรัพย์สินให้ไปยึด เจ๊พัช กล่าว
ล่าสุด ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เปิดเผยหลังเข้าฟังการตัดสินว่า คดีที่ฟ้องร้องไปนั้น คดีแรกฟ้องทนายครูปรีชากับตัวครูปรีชาเอง ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ โดยศาลรอลงคำพิพากษา ต้องนำกลับไปทำคำพิพากษาใหม่ เนื่องจากครูปรีชากลับคำรับสารภาพสลับไปมา ส่วนคดีที่สองคือคดีร่วมกันเบิกความเท็จ ที่ครั้งแรกครูปรีชายอมรับสารภาพ แต่มากลับคำรับสารภาพภายหลัง ศาลเล็งเห็นว่าเป็นการประวิงเวลา จึงไม่ยินยอมให้กลับคำรับสารภาพ โดยมีนัดฟังคำตัดสินวันที่ 20 มี.ค.นี้ ส่วนคดีที่สาม เป็นคดีที่ฟ้องร้องเจ๊พัช เจ๊บ้าบิ่น และพยานบุคคลอื่นๆ รวม 10 คน ในข้อหาเบิกความเท็จ แต่เนื่องจากคุยไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงิน 2.5 ล้านบาท ที่ฝ่ายโจทก์เรียกร้องไป แต่กลุ่มพยานไม่ยินยอมจะร่วมชดใช้ จึงขอต่อสู้คดี โดยมีนัดไต่สวนมูลฟ้องเดือนเม.ย.67
ทั้งนี้ ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า ครูปรีชาระบุว่า หากฟ้องพยานแบบนี้สังคมจะอยู่อย่างไร ทำให้ลุงจรูญ โมโห ไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยหรือถอนฟ้องแล้ว ให้นำเงินไปวางที่ศาลดีกว่า
ด้าน ลุงจรูญ กล่าวว่า ตนน่าจะเป็นคนพูดให้ครูปรีชาฟังมากกว่าว่าการที่มีคนอย่างคุณอยู่แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร และในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง วันหน้าก็ไม่ต้องคุยกันดีกว่า ตนไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน จะจบก็ได้ แต่ให้โอกาสแล้ว เขาไม่คว้าไว้ ตนเหนื่อยกายเหนื่อยใจแล้ว เพราะรู้มาแต่แรกว่าคดีจะนานแน่ๆ ทั้งหากเรื่องยังไม่จบก็คงไม่ขอซื้อหวยอีก