ยังหาเหตุไม่ได้ “น้ำ” ในแม่น้ำสายขุ่นข้นขึ้นอีก “นายอำเภอ” เรียกประชุมแต่ไร้คำตอบต้องรอผลตรวจวันที่ 14 ก.พ.นี้ การประปาโวเร่งยกระดับคุณภาพน้ำ-ควบคุมสารปนเปื้อน

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย ได้ประชุมร่วมกับ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ กรมอนามัย สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย สาธารณสุขอำเภอแม่สาย ประปาภูมิภาคสาขาแม่สาย คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) เพื่อหารือถึงสถานการณ์แม่น้ำสายที่มีสีขาวขุ่นซึ่งสร้างหวาดวิตกให้กับประชาชนที่บริโภคน้ำประปา เนื่องจากใช้น้ำดิบจากแม่น้ำสายทำน้ำประปา

นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า เมื่อวานนี้(6 ก.พ.) ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ และศูนย์อนามัยที่ 1 เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจโลหะหนักโดยจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ที่จะทราบผล ดังนั้นทางอำเภอแม่สายจะรอฟังผลในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เมื่อรับทราบจากหน่วยงานแล้วจะนำแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป

“ขณะนี้ยังไม่ทราบผลว่ามีโลหะหนักหรือไม่และทาง TBC เมียนมาก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาว่ากิจกรรมแบบไหนที่ทำให้แม่น้ำสายเป็นสีขาวขุ่น การจะทักท้วงจึงต้องรอผลตรวจก่อนเพราะหากไม่ปลอดภัยก็มีผลต่อประชาชนทั้ง 2 ฝั่ง เหมือนปี 2565 มาที่มีการตรวจพบไฮโดรเจนสารไซยาไนด์ ซึ่งทางเมียนมาก็ได้ดำเนินการปิดโรงงานปูนขาวต้นเหตุที่มาของสารอันตรายดังกล่าว”นายอำเภอแม่สาย กล่าว

ทั้งนี้ในการประชุมเจ้าหน้าที่ห้องแลปที่ตรวจคุณภาพน้ำของประปาแม่สายได้ชี้แจงว่า การประปาแม่สายสามารถควบคุมคุณภาพน้ำประปาพร้อมกับยกระดับมาตรฐานการคุมสิ่งปนเปื้อน ทั้งแมงกานิส ตะกอน แบคทีเรีย และค่าอื่น ๆ จากที่น้ำแม่น้ำสายขุ่นขาวข้น ทางประปาได้ใช้ GF333 ในการกระบวนการกรองน้ำให้ปลอดภัยซึ่งเป็นมาตรฐานของยุโรป และได้มาตรฐานสูงขึ้นจากเดิม

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าในปีที่ผ่านมาระยะเวลาน้ำขุ่นนานขึ้น และการมีตะกอนขุ่นขาวที่พบเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมาขณะนี้ยังไม่ลดลงเลย ซึ่งมีความแตกต่างกันชัดเจนระหว่างน้ำในแม่น้ำสาย กับน้ำรวก บริเวณ ต.แม่สาย จะมีตะกอนขุ่นข้นกว่า ต.เกาะช้างที่มีน้ำรวกไหลมารวมน้ำสาย อย่างไรก็ตามในส่วนการปนเปื้อนโลหะหนักทางประปาได้ส่งไปตรวจที่การประปาภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่

ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงช่วงเวลานี้เป็นการเฝ้าระวัง เพราะผลการตรวจปริมาณปนเปื้อนของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว เพิ่มขึ้นในปี 2566 แต่ยังห่างไกลปริมาณที่เป็นอันตราย ส่วนสารหนู ในปีนี้มีปริมาณมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ยังไม่ถึงปริมาณที่เป็นอันตราย จึงทำให้ประปาแม่สายต้องเพิ่มการตรวจคุณภาพน้ำออนไซส์ที่ตรวจในพื้นที่ได้เป็น 2 ครั้งต่อเดือน จากเดิมตรวจ 1 ครั้งต่อเดือน และการตรวจโลหะหนัก 9 ชนิด ที่ต้องส่งไปตรวจเป็น 1 เดือนต่อครั้ง จากเดิมตรวจ 6 เดือนหรือ 1 ปีต่อครั้ง ในช่วงการเฝ้าระวัง

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงสำรวจพื้นที่ริมแม่น้ำสาย และได้สอบถามชาวบ้านซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่าในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาน้ำสายขาวขุ่นผิดปกติและคงตะกอนแบบนั้นจนถึงวันนี้ และยังมีความขุ่นเพิ่มขึ้น ทำให้ต่างรู้สึกกังวล แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มชาชิน มีเพียงบางส่วนที่สงสัยว่าจะอันตรายหรือไม่ แล้วคอยติดตามว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างไร ด้วยเพราะต้นน้ำอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน จึงไม่สามารถบอกได้ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำขุ่นคืออะไร

“นอกจากมีน้ำสีขาวขุ่นในหน้าแล้งทั้งๆที่ปกติน้ำใส จนน่าแปลกใจ ตอนนี้บริเวณเหนือแม่น้ำสายขึ้นไปมีการสร้างอาคารบ้านเรือน สถานบันเทิง ร้านอาหาร ผุดขึ้นจำนวนมาก ของเสีย ขยะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เราต้องการให้ทางการที่มีอำนาจหน้าที่มาแก้ปัญหาให้คนแม่สายด้วย”ชาวบ้านริมแม่น้ำสาย กล่าว