หนุ่มวัย 32 ปี ชาวบุรีรัมย์ เปิดบ้านพักเป็นที่มั่วสุมเสพและขายยาบ้า ถูกเจ้าหน้าที่วางแผนล่อซื้อ เกิดไหวตัวทัน นำเงินล่อซื้อกับยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ยัดทิ้งโถส้วม หวังหนีความผิด เจ้าหน้าที่ลุยงัดบ่อเกรอะ ล้วงถังส้วม พบถุงใส่ยาบ้าใช้แล้วเพียบ พร้อมเงินของกลาง เผยทำมานานแล้ว ไม่เคยถูกจับตัวได้ แต่เคยแค่ถูกจับนำไปบำบัดฟื้นฟู 

  เมื่อวันที่ 8 ก.พ.67 พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์) นำกำลังตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ,สืบสวน สภ.กระสัง , ชปส.ร้อย ตชด.215 , ชปส. ร้อย ตชด 216 , ชปส.กก.ตชด.21 , เจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.รมน. และ  หน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.( นฝด.22 ขกท.กกล.สุรนารี) จับกุมตัว นายไทยน้อย (สงวนนามสกุล)อายุ 32 ปี อยู่หมู่ที่ 15 ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 179 เม็ด และธนบัตรล่อซื้ออีก 7,500 บาท รวมถึงอุปกรณ์การเสพเกลื่อนบ้านพัก

 หลังชุดจับกุมได้วางแผนให้สายลับ ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวน 1 ถุง หรือจำนวน 200 เม็ด จากนายไทยน้อย ในราคาถุงละ 7,500 บาท โดยนัดหมายส่งมอบยาบ้าและเงินในบ้านพักของ นายไทยน้อย ซึ่งใช้เป็นที่มั่วสุมเสพยาบ้าและจำหน่ายยาบ้าให้กับลูกค้า โดยเมื่อสายลับซื้อยาบ้าเสร็จกลับออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการจับกุม แต่นายไทยน้อย ได้ไหวตัวทันรีบปิดล็อกประตูบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในตัวบ้าน ระหว่างนั้นนายไทยน้อย ได้วิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วนำเงินสดที่ได้จากการขายยาบ้าจำนวน 7,500 บาท ยัดลงในถังชักโครก พร้อมกับยาบ้าอีกจำนวน 10 เม็ด ลงในชักโครกด้วย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะบุกเข้าไปข้างในตัวบ้านเพื่อจับกุมตัว

 

 ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมต้องลงทุนทำการเปิดฝาบ่อเกรอะของส้วม เพื่อค้นหาธนบัตรล่อซื้อกับยาบ้าที่เหลือ ซึ่งเมื่อเปิดฝาบ่อเกรอะของส้วมออกมา ก็ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ย่อท้อ ได้ใช้มือล้วงควานเข้าไปในท่อเพื่อค้นหาของกลาง ก็พบถุงพลาสติกสีน้ำเงินที่ใช้สำหรับบรรจุยาบ้าร่วม 10 ถุง ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วอยู่ในรูท่อระบายของบ่อเกรอะ 

 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าธนบัตรล่อซื้อและยาบ้าน่าจะอยู่ในบริเวณคอห่านชักโครก จึงทำการทุบคอห่านชักโครก ก็พบธนบัตรล่อซื้อทั้ง 7,500 บาท กับยาบ้า 10 เม็ด ที่ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกใส และยังพบถุงพาสติดสีน้ำเงินอีก 1 ถุง อยู่ในคอห่านของชักโครกด้วย จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำมาตรวจสอบ โดยเป็นยาบ้าในถุงพลาสติก 10 เม็ด ที่นายไทยน้อย ได้ทำการตอน หรือแบ่งออกจากถุงน้ำเงินที่นำมาขายให้กับสายลับเหลือจำนวน 169 เม็ด และธนบัตรล่อซื้อก็ตรงกับสำเนาธนบัตรล่อซื้อ ที่ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม ยังที่ทำการ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระสัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 สอบถาม นายไทยน้อย ให้การยอมรับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวตนเองได้ซื้อมาจากเพื่อนมาอีกทอดหนึ่ง เพื่อเอาไว้มาไว้ขายให้กับลูกค้าทั้งในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง รวมถึงนำไว้เสพเองด้วย โดยได้ใช้บ้านพักของตนเองเป็นที่สำหรับขายยาบ้าให้กับลูกค้า และให้ลูกค้าที่มาซื้อได้เสพด้วย ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยถูกจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้า แต่เคยถูกจับแค่เสพ นำตัวไปเข้าโครงการบำบัดเท่านั้น 

  โดยในครั้งนี้ได้มีรุ่นน้องที่รู้จักกัน ติดต่อมาขอซื้อยาบ้าจากตนจำนวน 1 ถุง หรือจำนวน 200 เม็ด โดยตนขายให้ราคาถุงละ 7,500 บาท และนัดให้มารับยาบ้าที่บ้านของตนเอง เมื่อยื่นส่งมอบยาบ้ากับเงินเสร็จแล้ว รุ่นน้องได้เดินทางกลับออกไป หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีตำรวจวิ่งเข้ามา ด้วยความตกใจจึงรีบล็อกปิดประตูแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วนำเงินค่าขายยาบ้าทั้งหมด พร้อมกับยาบ้าอีกจำนวน 10 เม็ด ที่ได้ตอนออกจากถุงที่ขายไป ยัดเข้าไปในโถชักโครกแล้วราดน้ำ ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาจับกุมตัว และตรวจค้นเจอยาบ้ากับเงินสดดังกล่าว